วันเสาร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

LIVE & LEARN เพราะชีวิตคือชีวิต

 

บทกลอน อักษร กวี LIVE & LEARN เพราะชีวิตคือชีวิต


หมอบพับเพียบเลียบริมน้ำปริ่มฝั่ง

ตะแคงฟังนิยายเพลินจากเนินหญ้า

ระบำมดคดเคี้ยวลับเคียวตา

หยาดน้ำฟ้าลากลิ้งทิ้งใบบอน

แมลงปอเกาะหินเลื่อมปิ่นรุ้ง

ผีเสื้อพุ่งอวดแพรแผ่ปีกร่อน

กิ้งกือหักความอายออกกรายกร

กระรอกหย่อนลูกหว้าหยั่งท้าทาย

เมื่อเอนพิงอิงพักหนุนตักหล้า

แนบเงาฟ้าในน้ำเปี่ยมความหมาย

ธรรมชาติวาดแต้มยังแย้มพราย

และโลกส่ายกายหมุนด้วยคุ้นเคย

เหม่อมองฟ้าสีฟ้ากว้างกว่ากว้าง

คิ้วรุ้งค้างเนตรสูรย์มุ่นหมอกเสย

แย้มเสี้ยวเมฆยิ้มแดดสีแสดเอย

หัตถ์ลมเชยเผยแก้มแพลมยิ้มพลัน

แล้วสบตากับเรา-เงาในน้ำ

ไหลลำนำฉ่ำใจคล้ายเคลิ้มฝัน

พิสทธิ์ใสไล้หล้ารับตาวัน

กล่อมดวงขวัญล่องลิบทิพยา

เรามองโลกสดใสในวันนี้

ด้วยใจที่อ่อนวัยไร้เดียงสา

ทุกสิ่งช่วยอวยสุขทุกเวลา

หากวันหน้าเป็นอย่างไร....ไม่อาจรู้



ห้วงคำนึง , ใบไม้ที่หายไป

โดย จิระนันท์ พิตรปรีชา



คุณจะเป็นอะไรก็ได้อย่างใจคิด

ให้ความล้มเหลวจมอยู่กับความยินดีจอมปลอมของมัน

กับสิ่งน่าอดสูที่เรียกว่า “สิ่งแวดล้อม”

ซึ่งวิญญาณของเราปฏิเสธมัน และเป็นอิสระ

จิตข้ามพ้นกาลเวลา พิชิตสถานที่

คุกคามจอมลวงขี้โม้นาม “ความบังเอิญ”

บัญชาสยบทรราชย์แห่ง “สถานการณ์แวดล้อม”

ถอดถอนมันออกไปเป็นทาสรับใช้เสีย

พลังมุ่งมั่นของมนุษย์มิมีใครมองเห็น

คือผลพวงแห่งวิญญาณอมตะ

อันฝ่าฟันนำเราเข้าสู่ทุกปรารถนา

มาตรว่ากำแพงแกร่งแห่งหินผาจะมาขวางกั้น

จงอดทนในความล่าช้า

และรอคอยเยี่ยงผู้ที่เข้าใจ

เมื่อจิตวิญญาณตื่นขึ้นเป็นนาย

แม้ทวยเทพยังยอมน้อมรับบัญชา



ผลกระทบของความคิดต่อสถานการณ์ชีวิต

จาก As a Man Thinketh โดย เจมส์ แอลเลน



หนึ่งในความงมงายอันมืดบอดที่สุด

คือความงมงายของนักวิทยาศาสตร์

ผู้กล่าวว่ามนุษย์สามารถดำรงอยู่ได้

โดยปราศจาก ศรัทธา

ศาสนาที่แท้คือการสร้างสัมพันธภาพ

ระหว่างมนุษย์กับชีวิตอันอนันต์ที่แวดล้อมอยู่รอบตัวเขา

โดยพันธนาการชีวิตของเขาไว้กับอนันตภาพ

ซึ่งชี้นำแนวทางปฏิบัติแก่เขาด้วยนั้น

หากท่านรู้สึกว่ากำลังไร้ซึ่งศรัทธา

ขอจงตระหนักว่าท่านกำลัง

เผชิญอันตรายร้ายแรงที่สุดในโลก

ซึ่งมีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่อาจค้นพบตัวเองได้



กฎแห่งความรักและกฎแห่งความรุนแรง

โดย ลีโอ ตอลสตอย



มนุษยคิด ดังนั้นเขาจึงมีอยู่

แต่มันกระจ่างชัดที่ว่าเขาต้องคิดอย่างมีเหตุผล

บุคคลที่คิดอย่างมีเหตุผลนั้น ก่อนอื่น

เขาจะคิดถึงจุดหมายแห่งการมีชีวิตอยู่

เขาคิดถึงจิตวิญญาณของเขาและพระเจ้า

เมื่อมองไปยังสิ่งที่ปุถุชนคิด

พวกเขาคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่ตัวเองชอบ

ยกเว้นในประเด็นดังกล่าว

และคิดถึงแต่เรื่องร้องรำทำเพลงและความบันเทิง

เขาคิดถึงตึกสูงๆ ถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ถึงอำนาจ

เขาอิจฉาพวกกษัตริย์และความร่ำรวย

แต่เขาไม่เคยคิดถึงวิธีที่จะเป็นมนุษย์



Pense’es ความคิด

โดย Blaise Pascal หรือ ปาสคาล



คือหิน คือกลุ่มก๊าซ คือหมอกเมฆ คือดวงจิต

คืออนุภาคที่ท่องไปในระหว่างกาแล็กซี่ด้วยความเร็วแสง

ที่รัก เธอมาที่นี่ ด้วยดวงตาสีฟ้าทอประกาย

ช่างลึกซึ้งงดงามจับใจ

เธอดำเนินสู่หนทางที่เตรียมไว้สำหรับเธอ

จากที่ซึ่งปราศจากจุดเริ่มต้น และไร้ที่สิ้นสุด

เธอบอกว่า บนหนทางที่เธอมาสู่ที่แห่งนี้

และได้ท่องผ่านการเกิดดับมาหลายล้านครั้ง

เธอถูกแปรเปลี่ยนเป็นลูกไฟในห้วงอวกาศนับครั้งไม่ถ้วน

เธอใช้ร่างกายของตัวเอง

เป็นมาตรวัดอายุขุนเขาและธารน้ำ

เธออุบัติขึ้นเป็นต้นไม้ ใบหญ้า ผีเสื้อ สิ่งมีชีวิตเซลเดียว

รวมทั้งดอกเบญจมาศ

ทว่าดวงตาที่เธอจ้องมองฉันเมื่อเช้านี้

ได้บอกแก่ฉันว่าเธอจะไม่มีวันตาย

รอยยิ้มของเธอเชื้อเชิญฉันเข้าสู่การเล่นซ่อนหา

ที่ไม่รู้ว่าใครเป็นผู้เริ่ม



รักแท้ ,เมตตาภาวนา คำสอนว่าด้วยรัก

โดย ติช นัท ฮันห์



จงอย่าพูดว่าพรุ่งนี้ฉันจะจากไป

เพราะจนถึงทุกวันนี้ฉันก็ยังคงอยู่

สำรวจทุกๆ ขณะที่ฉันก่อเกิด

เป็นปุ่มปมที่ผุดออกบนกิ่งก้านของฤดูใบไม้ผลิ

เป็นนกน้อยในรังใหม่

เป็นตัวหนอนในเกสรดอกไม้

เป็นมณีที่ซ่อนเร้นตัวเองอยู่ในก้อนหิน

ฉันยังคงอยู่เพื่อหัวเราะและร้องไห้

เพื่อความกลัวและความหวัง

ท่วงทำนองของหัวใจฉันก็คือ

การเกิดดับของสรรพสิ่ง

ฉันเป็นแมงเม่าที่กำลังฟักตัว

อยู่บนผิวน้ำและฉันก็เป็นนก

ที่โฉบลงจิกแมงเม่า

ฉันเป็นกบที่กำลังแหวกว่าย

ในสระน้ำใสอย่างมีความสุข

และฉันก็เป็นงูเขียวที่กลืนกินกบอย่างเงียบเชียบ

ฉันเป็นเด็กในอูกันดา ที่ทั้งเนื้อหนังและกระดูก

ขาลีบบางราวกับไม้ไผ่ และฉันก็เป็นพ่อค้าอาวุธ

ขายอาวุธมหันตภัยให้แก่อูกันดา



บทกวีกราบสามหน ,เมตตาภาวนา คำสอนว่าด้วยรัก

โดย ติช นัท ฮันห์



ภายนอกจิตไม่มีพุทธะ

ภายนอกพุทธะไม่มีจิต

อย่ายึดเกาะกับความดี

อย่าขับไล่ความชั่ว

ความบริสุทธิ์กับความสกปรก

ถ้าเจ้าไม่อิงกับทั้งสองสิ่งนี้

เจ้าจะจับต้องธรรมชาติว่างเปล่าของบาป

ในทุกชั่วขณะมันจับต้องมิได้

เพราะไม่มีธรรมชาติของตัวตน

ฉะนั้นทั้งสามโลกเป็นเพียงความนึกคิดของจิต

จักรวาลและสรรพสิ่ง

คือตราประทับของธรรมะเดียว

(คำว่าสามโลก ในความหมายนี้ หมายถึง อาณาจักรแห่งตัณหา รูปแบบและความไร้รูปแบบ)



คำสอนของอาจารย์หม่าจู่ พระอาจารย์เซน

มังกรเซน โดย วินทร์ เลียววาริณ



สำหรับคำว่า “เป็นอยู่ด้วยความว่าง” นั้นย่อมหมายถึง

สุญญตาวิหาร คือการเป็นอยู่ มีลมหายใจอยู่ด้วย

ความรู้สึกต่อความว่างนั้นตลอดเวลา

อย่างนี้เรียกว่า เป็นอยู่ด้วยความว่าง

คำว่า “ว่างอยู่” ก็หมายความว่า ไม่มีความรู้สึก

ว่าตัว ว่าตน ว่าของตัวหรือของตน

ตัวเราหรือของเรา ตัวกูหรือของกูเหล่านี้

ซึ่งเป็นการปรุงแต่งของตัณหาอุปาทาน

เมื่อว่างจากสิ่งเหล่านั้นอยู่ก็คือว่างอยู่

อะไรมันว่าง ก็หมายถึงจิตอีกนั่นเอง ว่าง

คือว่างอยู่จากความรู้สึกว่าตัวตนหรือว่าของตน

ไม่มีทั้งอย่างหยาบและอย่างละเอียด

อย่างหยาบเราให้ชื่อมันว่าตัวกู—ของกู

อยางละเอียดเราให้ชื่อมันว่าตัวตน-ของตน

ถ้าจิตมีความว่างถึงขนาดว่า

ไม่มีตัวตนอย่างละเอียดก็เรียกว่า

เป็นความว่างเสียเอง คือว่าจิตนั้นเป็นความว่างเสียเอง



แก่นพุทธศาสน์

โดย พุทธทาสภิกขุ



แต่ขอให้มีที่ว่างในการมาอยู่รวมกันของเธอ

และขอให้ลมแห่งสวรรค์เต้นรำอยู่ระหว่างเธอทั้งสอง

รักกันและกัน แต่อย่าสร้างพันธนาการแห่งความรัก

ขอให้มันเป็นทะเลที่เคลื่อนไหวได้ ระหว่างฝั่งของจิตใจของเธอทั้งสอง

เติมถ้วยของกันและกัน แต่อย่าดื่มจากถ้วยเดียวกัน

ให้ขนมปังแก่กันและกัน แต่อย่ากินจากขนมปังก้อนเดียวกัน

ร้องเพลงและเต้นรำด้วยกัน และมีความสุข

แต่ขอให้เธอแต่ละคนได้มีโอกาสอยู่ตามลำพัง

แม้แต่สายของพิณก็ต่างคนต่างอยู่

แต่พวกเขาจะสั่นพลิ้วเป็นทำนองเดียวกัน

ให้ดวงใจของเธอ แต่ไม่ใช่เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งเก็บไว้

เพราะมีแต่มือของชีวิตเท่านั้น ที่จะเก็บดวงใจของเธอไว้ได้

จงยืนอยู่ด้วยกัน แต่อย่ายืนใกล้กันมากเกินไป

เหมือนเสาของวิหารที่ต่างยืนห่างจากกัน

และต้นโอ๊ค ต้นไซเปรสนั้น ต่างคนต่างโตด้วยตนเอง

ไม่ได้เติบโตในร่มเงาของกันและกัน



The Prophet หรือปรัชญาชีวิต

โดย คาลิล ยิบราน


ชีวิตภายนอกคือสิ่งสะท้อนชีวิตภายในตัวคุณ

วิธีที่คุณคิดและความรู้สึกที่อยู่ในตัวคุณ จะสอดคล้องกับ

วิธีที่คุณปฏิบัติและประสบการณ์ที่คุณได้รับ

สัมพันธภาพ สุขภาพ ความมั่งมี และสถานะ

คือภาพสะท้อนของโลกที่อยู่ภายในตัวคุณ

ความสงบสุขในจิตใจคือคุณธรรมขั้นสูงสุดของมนุษย์

มันคือสภาวะที่ปกติและเป็นกลาง

จงถามตัวเองว่า “คุณต้องการที่จะได้ชื่อว่าทำถูกต้อง”

หรือคุณต้องการที่จะมีความสุข



กฎแห่งการตอบสนอง , คมความคิด

กฎเหล็กแห่งความสำเร็จ โดย ไบรอัน เทรซี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น