เคยคิดจะเขียนอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้นานแล้ว
แต่ก็ไม่มีโอกาสเสียที พอจบจากงานเขียนนวนิยายของตนเองแล้ว
ระหว่างรอเขียนงานชิ้นต่อไป
ก็เลยสบโอกาสที่อยากจะเขียนเรืองราวเกี่ยวกับหนังจีนชุดนี้เสียหน่อย
จะไม่ขอเรียกว่าเป็นบทวิจารณ์ หรือบทความอะไรทั้งสิ้น ขอเรียกว่าความเรียง
หรือความระหว่างบรรทัดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็แล้วกัน
ตอนเด็กๆ (ช่วงยุค 80’s) ติดหนังจีนชุดนี้มาก
สมัยนั้นฉายที่ช่อง 3 ตอนเที่ยงๆ ของวันเสาร์อาทิตย์ คือ
ไปไหนไม่ได้เลย ต้องดูซีรีส์ชุดนี้
ซึ่งสมัยนั้นมีหนังจีนชุดกำลังภายในแบบเรื่องนี้ ฉายอยู่ทุกวัน มีอยู่หลายเรื่อง
ตั้งแต่ เซียวจับอิดนึ้ง ฤทธิ์มีดสั้น เล็กเซียวหงส์ เพชฌฆาตดาวตก นักสู้ผู้พิชิต
(ปึงป้อยี้) เซียวฮื่อยี้ ฯลฯ บลาๆๆ
เรียกว่าเป็นยุคทองของหนังจีนกำลังภายในก็ว่าได้ และก็ช่อง 3,7 นั่นแหละเป็นช่องที่บุกเบิกหนังจีนกำลังภายในทางจอโทรทัศน์ที่ทำให้คนติดกันงอมแงมทั้งบ้านทั้งเมือง
หนังจีนชุด “กระบี่ไร้เทียมทาน”
หรือในชื่อสากลก็คือ Reincarnated ออกฉายในปี 1978 ที่ฮ่องกง สร้างโดย RTV (ซึ่งภายหลังเปลี่ยนชื่อบริษัทมาเป็น
ATV และปัจจุบันทีวีช่องนี้ได้ปิดตัวไปแล้ว)
1.เหตุใดหนังจีนชุดนี้
จึงครองใจคนดูทั่วเอเชีย และคอหนังจีนกำลังภายในรุ่นเดอะ เป็นอันมาก เรียกว่า
ถ้ามีการจัดอันดับหนังจีนกำลังภายใน ในดวงใจตลอดกาล เรื่องนี้ต้องติด 1 ใน 3 หรือ 1 ใน 10 ในทุกผลโพลล์อย่างแน่นอน รวมถึงผู้เขียนด้วย ผู้เขียนเข้าใจว่าเป็นเพราะ
องค์ประกอบโดยรวมมันลงตัว และบทมันสนุกมาก คือผู้แต่งนวนิยายจีนชุดนี้ คือ
อึ้งเอ็ง เขียนนวนิยายชุดนี้ คู่ไปกับการเขียนบทโทรทัศน์ เพื่อให้ RTV ผลิตเป็นหนังจีนชุดทางทีวี จำนวน 60 ตอน
ซึ่งมันแปลกประหลาดมาก ซึ่งขนบแบบนี้ ไม่ค่อยนิยมทำกัน หรืออาจจะไม่มีเลย
ในการสร้างซีรีส์ในยุคหลัง ก็เพราะคนเขียนจะต้องเก่งมากนั่นเอง คุณทำได้อย่างไรกัน
เพราะรูปแบบการเขียนนิยาย กับการเขียนบท ใช้ทักษะแตกต่างกัน และวิธีการเล่าเรื่อง
กลอุบายในการเขียน ตลอดจนสำนวนในการเขียนก็ย่อมแตกต่างกัน แต่นี่คืออึ้งเอ็งทำ
อาจจะด้วยสมัยนั้น ยังไม่มีบทประพันธ์ที่เหมาะสมที่จะนำมาผลิตเป็นหนังจีนชุดมากมายเหมือนสมัยนี้
และอาจเป็นไอเดียใหม่ ที่เพิ่งคิดได้ ก็เลยด้นสดไปพร้อมกัน
และอาจเป็นความเร่งรีบของทีมงานผลิตซีรีส์ทางทีวี ซึ่งสมัยนั้น ต้องถือว่า RTV
เป็นทีวีน้องใหม่ของฮ่องกง ที่กำลังต้องการสร้างชื่อ สร้างเรตติ้ง
ทุกอย่างมันเลยกลายเป็นปรากฏการณ์ ที่เรียกว่า ยุคนี้สมัยนี้
ยังไม่รู้ว่าจะทำได้เท่าสมัยนั้นหรือไม่ อาทิ
-ได้นักแสดงชั้นนำของฮ่องกงยุคนั้น (ที่เคยแสดงแต่ภาพยนตร์
และก็เป็นทีมเดียวกับที่แสดงอยู่ในค่ายชอว์บราเดอร์ ซึ่งเป็นค่ายหนังจีนอันดับ 1
ของฮ่องกงด้วย) อาทิ
ฉีเส้าเฉียน,หวีอันอัน,เหมียวเข่อซิ่ว,อู่เว่ยกัวะ,กู้กวนจง ฯลฯ
ยังไม่นับแสดงประกอบที่ก็ล้วนแล้วแต่ผ่านงานภาพยนตร์มาทั้งสิ้น มาแสดง
ชนิดว่าดาราคับคั่งล้นจอ และเหมือนดูหนังจีนชอว์บราเดอร์ในฉบับขยายเป็นตอนๆ
ทางทีวีอีกด้วย
-บทเขียนได้สนุก ชนิดว่าไม่สามารถลุกจากเก้าอี้ไปไหนได้
เวลาที่ซีรีส์ชุดนี้ฉายทางทีวี ชนิดที่เรียกว่า ถ้าเผลอหลับไป
หรือลุกไปเข้าห้องน้ำ กลับมาอีกที เอ้าเฮ้ย ทำไมเป็นอย่างนั้น อย่างนี้แล้ว ถามใครก็ไม่ได้
ในบ้านดูอยู่คนเดียว สมัยนั้นยังไม่มีวีดีโอเทป ที่จะเช่ามาดูย้อนหลัง หรือไม่มีอินเตอร์เน็ท
ที่จะดูรีรันได้ คือพลาดแล้วพลาดเลย แม้กระทั่งเพลงตอนไตเติ้ลอินโทรและตอนจบ
ยังต้องดูจนจบ เพราะชอบเพลงนำ และเพลงประกอบมากๆ
-การเดินเรือง การเล่าเรื่อง ตลอดจนคิวบู๊
กระชับฉับไว ไม่มีมาโอ้เอ้ แม้ว่าบางช่วงของกลางๆ เรื่อง ดูจะน่าเบื่อ
เพราะต้องเล่าเรืองเพื่อขยายความตัวละครอื่นๆ ก็ตาม
แต่ก็ยังมีกิมมิคอะไรบางอย่างชวนให้ติดตาม ไม่สามารถจะหยุดดูไปได้
(เดี๋ยวจะบอกว่ากิมมิคเหล่านั้นคืออะไร)
-ดูไป วิพากษ์วิจารณ์ไป ฉงนสนเท่ห์ไป ถามใครก็ไม่ได้
ไม่มีใครดูแล้วบ้าเหมือนเรา เขาไม่ได้ดูละเอียดเท่าเรา มีคำถามเกิดขึ้นมากมาย
ถ้าเป็นสมัยนี้ที่มีโลกโซเชียล ก็คงได้เกิดวิวาทะ ปะฉะดะ กับแฟนคลับ(ติ่ง)ของเรื่อง
หรือคนที่ดูแล้วไม่ชอบ ไม่สมเหตุผล ก็คงเข้ามาเถียงและด่า จนเกิดเป็นดราม่าในโลกโซเชียลแน่ๆ
-ความที่สมัยก่อน โฆษณาทางทีวียังไม่เยอะ และพวกละคร
หรือรายการโทรทัศน์ยังไม่ผลิตมากมายเท่ายุคนี้ หรือเรียกว่า ผังรายการยังไม่แน่น
ปรากฏหนังจีนแต่ละเรื่องฉายกันวันละ 2-4 ชั่วโมง
รู้สึกกระบี่ไร้เทียมทาน จะฉายวันละ 2 ชั่วโมง ถ้าจำไม่ผิด
เท่าละครหัวค่ำในยุคนี้นั่นแหละ ซึ่งผิดกับซีรีส์ทางทีวียุคนี้ ฉายกันตอนละ 1
ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ดูเต็มอิ่ม
และเรืองนี้เคยถูกนำมารีรันตอนช่วงไพร์มไทม์หัวค่ำวันธรรมดาด้วย
ภายหลังฉายจบไปในยุคแรก (ข่วงเที่ยงบ่ายของวันเสาร์อาทิตย์)
2.พล็อตเรื่อง
เป็นไปตามขนบของหนังจีนกำลังภายในหลายๆ เรื่องมาขยำรวมกัน
หรือเอาจุดเด่นจากหนังจีนกำลังภายในหลายเรื่อง มาขยำรวมเป็นเรืองเดียว
แล้วสร้างเป็นพล็อตเรื่องขึ้นมาใหม่ ก็คือเรื่องนี้ จึงรวมเอาความมัน ความสนุก
แก่นปรัชญาสำคัญในนิยายจีนมาอยู่ในเรื่องนี้
แบบชนิดที่ว่าไม่เคยเห็นในเรื่องอื่นมาก่อน แต่มันก็พลอยทำให้มีทั้งข้อดี
ข้อเสียตามมา
ข้อดี
ก็คือมันทำให้การเดินเรื่องน่าติดตาม สนุก และชวนให้ติดตาม
ไม่มีช่วงน่าเบื่อในหนังจีนชุดนี้เท่าไหร่
ข้อเสีย ก็คือมันทำให้เหตและผล
หรือความไม่สมเหตุสมผล เกิดขึ้นมากมายหลายจุด และเกิดการเปลี่ยนแปลงบท
เปลี่ยนแปลงตัวละคร เพิ่มตัวนั้นเข้า ลดตัวนี้ออก ไม่ตรงตามบทประพันธ์เดิม
(ซึ่งนี่ก็เป็นจุดที่ทำให้ ซีรีส์ชุดนี้ ในตอนท้ายเรื่อง มีการเปลี่ยนแปลงบท
เปลี่ยนแปลงตัวนักแสดง และยังผลไปถึงเสียงตอบรับจากคนดู
ที่วิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก ถึงความผิดหวังในซีรีส์ชุดนี้ใน่บทสรุปตอนท้ายเรื่อง
ที่ชวนให้รู้สึกว่า เสียดายจริงๆ ทำดีมาทั้งเรื่อง แต่มาตกม้าตายตอนจบ ซึ่งจะได้กล่าวในรายละเอียดต่อไป
เรื่องย่อโดยสังเขปของ "กระบี่ไร้เทียมทาน"
เรื่องย่อโดยสังเขปของ "กระบี่ไร้เทียมทาน"
เนื้อเรื่องกล่าวถึงถึงฮุ้นปวยเอี๋ยงตัวเอกที่อาศัยทำงานในโรงครัวของสำนัก บู๊ตึ้ง แต่ถูกปฏิเสธการรับเข้าเป็นศิษย์บู๊ตึงเนื่องจากความเป็นมาของบิดาไม่ชัดเจน
ทำให้ต้องใช้แซ่ของมารดานำหน้าชื่อตนเอง
ต้องโดนกลั่นแกล้งต่างต่างนานาจากบรรดาศิษย์ร่วมสำนัก
ที่หารู้ไม่ว่าความจริงแล้วฮุ้นปวยเอี้ยงเป็นสุดยอดฝีมือที่สำเร็จหกสุดยอดวิชาของบู๊ตึ้ง
จากการลักลอบถ่ายทอดของเจ้าสำนักแชซ้งผู้เป็นบิดาของเขานั่นเอง
โดยสามารถพิชิตเพลงกระบี่อัสดงของก้วงตงลิ้วแห่งง้อไบ๊ที่มาท้าประลองกับแชซ้งได้
ด้วยแผนชั่วของหุบเขาสุขสันต์ที่นำโดยโป่วเง็กจือซึ่งแฝงตัวเข้าเป็นศิษย์ของแชซ้ง
ฮุ้นปวยเอี้ยงถูกใส่ร้ายว่าฆ่าเจ้าสำนักโดยโป่วเง็กจือ จนต้องเตลิดหนีลงจากเขาบู๊ตึ้งไป
ประจวบกับถูกต๊กโกวบ้อเต้กใช้วิชาพลังลมปราณมรณะทำร้ายบาดเจ็บสาหัสถึงสองครั้งสองครา
จนแทบเอาชีวิตไม่รอด สุดท้ายได้กินบัวหิมะจากความช่วยเหลือของโป่วเฮียงกุนและสำเร็จสุดยอดวิชาไหมฟ้าโดยได้รับการถ่ายทอดเคล็ดวิชาและพลังภายในจากซิมมั่งกุน
ผู้เป็นภรรยาของต๊กโกวบ้อเต็กและเป็นชู้รักของแชซ้ง
พอต๊กโกวบ้อเต็กทราบว่าทั้งฮุ้นปวยเอี้ยงและต๊กโกวหงส์ต่างก็เป็นบุตรของแชซ้ง
จึงได้จัดพิธีวิวาห์ให้กับทั้งสองคนเป็นการแก้แค้น
แต่โชคดีที่ซิมมั่งกุนมาขัดขวางได้ทันท่วงที
สุดท้ายฮุ้นปวยเอี้ยงก็ได้ใช้วิชาไหมฟ้าเอาชนะพลังลมปราณมรณะขั้นที่เก้า
ของต๊กโกวบ้อเต็กได้
นอกจากนี้ยังได้ช่วยเหลืออี้ชงทีกอบกู้สำนักบู๊ตึ้งคืนจากพวกหุบเขาสุขสันต์และขับไล่เจ้าหญิงอนัตตากลับไปยังแคว้นอุยเกียง
จนกลายเป็นจอมยุทธ์ไร้เทียมทาน ที่แม้กระทั่งมวลมารได้ยินชื่อยังขยาดหวาดกลัว
ใครที่ยังประทับใจในซีรีส์ชุดนี้
หรือไม่เคยดูซีรีส์ชุดนี้ ปัจจุบันช่อง NOW 26
ได้นำกลับมาฉายใหม่ในวันพุธ-ศุกร์ เวลา 14.30-15.30
น.
ผู้เขียนก็ยังกลับไปติดตามดูอยู่ ทั้งๆ ที่ดูมาแล้ว 4-5 รอบ ก็ยังประทับใจอยู่
หมายเหตุ เดี๋ยวว่างจะมาเขียนต่อ ตอนหน้าจะเข้าสู่เนื้อหา และตัวละครแล้ว โปรดติดตามตอนที่ 2 ต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น