ทำไม? อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร ร.๙ ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธฯ

สุสานหลวง “ราชสกุลมหิดล”

ในวันที่ 29 ตุลาคม 2560 วันสุดท้ายของการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ก็จะมีการอัญเชิญพระบรมราชสรีรางคาร ไปยังสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

ขอขอบคุณ ยูทูป จากช่อง new18

.....ในวันนี้เราพาไปรู้จักกับ “สุสานหลวง” สถานที่ซึ่งบรรจุพระสรีรางคารของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมไปถึงสมเด็จย่า และสมเด็จพระพี่นางฯ ด้วย

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร

เป็นพระอารามหลวงที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้น เป็นวัดประจำรัชกาล เมื่อ ปี พ.ศ.2412 โดยมีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับตะวันตก

ซึ่งวัดราชบพิธฯ แห่งนี้ นับเป็นพระอารามหลวงแห่งสุดท้าย ที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างตามโบราณราชประเพณี ที่มีการสร้างวัดประจำรัชกาล

นอกจาก จะเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง 3 องค์แล้ว
(“พระพุทธอังคีรส” พระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ)

วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามแห่งนี้ ยังเป็นที่ตั้งของสุสานหลวง

โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้น เป็นที่บรรจุพระอัฐิ และพระสรีรางคาร พระบรมราชเทวี พระราชเทวี เจ้าจอมมารดา พระราชโอรสและพระราชธิดาในพระองค์

ด้วยมีพระราชประสงค์จะให้ผู้ที่มีความรักใคร่ห่วงใยอย่างใกล้ชิดได้อยู่ร่วมกัน หลังจากที่ได้ล่วงลับไปแล้ว

ซึ่งมีรูปแบบสถาปัตยกรรมต่างๆ กันทั้งพระเจดีย์ พระปรางค์ วิหารแบบไทย แบบขอม และแบบโกธิค

สุนันทานุสาวรีย์

รังษีวัฒนา

เสาวภาประดิษฐาน

สุขุมาลนฤมิตร์

อนุสาวรีย์ที่สำคัญ คือ เจดีย์สีทอง 4 องค์ เรียงลำดับจากเหนือไปใต้

ซึ่งมีชื่อสอดคล้องกัน คือ สุนันทานุสาวรีย์, รังษีวัฒนา, เสาวภาประดิษฐาน และ สุขุมาลนฤมิตร์ บรรจุพระสรีรางคารของเชื้อพระวงศ์ชั้นสูงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

อาทิ พระสรีรางคารสมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ บรมราชเทวี ,พระราชสรีรางคารสมเด็จพระมหิตลาธิเบศ อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี

รวมทั้งพระสรีรางคาร สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์

ภายใต้ฐานชุกชีหินอ่อนซึ่งประดิษฐาน “พระพุทธอังคีรส” พระประธานในพระอุโบสถนั้น ยังได้บรรจุพระบรมอัฐิของรัชกาลที่ 2 - รัชกาลที่ 5 รวมถึงพระราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7 และสมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 7 อีกด้วย

“ .. คำว่า สุสานหลวง นี่มีอยู่ด้วยกัน 2 แห่ง

แห่งที่หนึ่งก็คือ วัดเทพศิรินทร์ เป็นที่เผาศพเจ้านาย

แห่งที่สองคือ วัดราชบพิธ เป็นที่เก็บอัฐิ หรืออังคารของเจ้านาย โดยเฉพาะในสายรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่ราชสกุลมหิดล ราชสกุลยุคล ราชสกุลอาภากร ราชสกุลกิติยากร ต่างๆ เหล่านี้ จะมาไว้กันที่นี่.... ” พระพรหมมุนี (สุชิน อคฺคชิโน) ผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร อธิบาย

แผนผังสุสานหลวง แสดงที่ตั้งของอนุสาวรีย์ต่างๆ

ในวันที่ 29 ต.ค.2560 พันโทหญิง พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ จะทรงเป็นผู้บังคับกองทหารม้าเกียรติยศ ประกอบริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศที่ 6 โดยทรงม้านำ อัญเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ออกจากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม พระบรมมหาราชวัง ไปบรรจุยังสุสานหลวง วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ราชวรวิหาร และวัดบวรนิเวศราชวรวิหารต่อไป

ที่มา : นิวข่าวเที่ยง| 19 ต.ค.60 | new18

เครดิตข้อมูลและภาพจาก เพจ welovethaiking.com

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเก็บพระบรมอัฐิลงพระโกศ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ พระเมรุมาศ ทรงเก็บพระบรมอัฐิในหลวงรัชกาลที่ ๙ ลงพระโกศ 6 พระโกศ พระราชทานแก่สมเด็จพระเทพรัตนฯ เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณฯ และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนฯ และทรงประมวลพระบรมราชสรีรางคารลงพระผอบ
วันนี้ (27 ต.ค.) เมื่อเวลา 08.42 น. สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง พร้อมด้วยพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ โดยเสด็จด้วย การนี้มี สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลีพระวรราชาทินัดดามาตุ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริภาจุฑาภรณ์ และพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าอาทิตยทรกิติคุณ เฝ้ารับเสด็จ
รถยนต์พระที่นั่งเทียบหลังพระที่นั่งทรงธรรม ถนนหน้าพระธาตุ ทหารกองเกียรติยศถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี เสด็จขึ้นพระที่นั่งทรงธรรม โดยมี 8 ตำรวจหลวง นายทหารราชองครักษ์เชิญธงชัยพระครุฑพ่าห์ ธงชัยกระบี่ยุทธ นำเสด็จ นายทหารราชองครักษ์ตามเสด็จ 
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระเมรุมาศ พร้อมด้วยพระบรมวงศ์ โดยมี 8 ตำรวจหลวง นายทหารองครักษ์เชิญธงชัยพระครุฑพ่าห์ ธงชัยราชกระบี่ยุทธ นำเสด็จ นายทหารราชองครักษ์ตามเสด็จ ประทับพระราชอาสน์ที่ข้างพระจิตกาธาน เจ้าพนักงานถวายเปิดผ้าเยียรบับ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิแล้ว ถวายน้ำพระสุคนธ์สรงพระบรมอัฐิด้วย เจ้าพนักงานถวายปิดผ้าเยียรบับพระบรมอัฐิ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระบรมอัฐิบูชาพระสงฆ์ ทรงทอดผ้าไตร 3 หาบ บนผ้าเยียรบับที่ปิดคลุมพระบรมอัฐิ สมเด็จพระราชคณะ พระราชาคณะ 9 รูป ขึ้นสดับปกรณ์ที่พระจิตกาธานครั้งละ 1 รูป จนครบ 9 รูป เจ้าพนักงานภูษามาลาเปิดผ้าเยียรบับคลุมพระบรมอัฐิ
จากนั้น สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเก็บพระบรมอัฐิ สรงพระสุคนธ์ในขันทองคำแล้วประมวลลงในพระโกศทองคำลงยาประดับเพชร รวม 6 พระโกศ ประกอบด้วย พระโกศพระบรมอัฐิที่จะเชิญไปยังพระบรมมหาราชวัง พระโกศพระบรมอัฐิที่จะทูลเกล้าฯ ถวาย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ ๙ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี
สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระโกศพระบรมอัฐิแก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เมื่อทั้งสามพระองค์ทรงรับแล้ว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิลงจากพระเมรุมาศไปยังพระที่นั่งทรงธรรม วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี จากนั้นเจ้าพนักงานภูษามาลาอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิประดิษฐานในบุษบกเหนือพระแท่นแว่นฟ้า ส่วนพระบรมราชสรีรางคาร เจ้าพนักงานจะได้ประมวลลงในพระผอบโลหะปิดทอง พักไว้บนพระเมรุมาศ
ต่อมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพระที่นั่งทรงธรรม แล้วประทับพระราชอาสน์ที่หน้าอาสน์สงฆ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิแล้ว ทรงประเคนโตกภัตตาหาร 3 หาบ แด่สมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะ 9 รูป ที่ได้สดับปกรณ์พระบรมอัฐิแล้วนั้น พระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายเครื่องสังเค็ดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร แด่พระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระราชาคณะ แล้วทรงยืนประเคนเครื่องสังเค็ดแด่พระราชาคณะ พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระที่นั่งทรงธรรม เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์อีก 30 รูป ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ สวดมาติกาจบ ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์พระบรมอัฐิ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระที่นั่ง

เครดิตข้อมูลและภาพจาก MGR online

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ถวายพระเพลิงพระบรมศพ (จริง) "ในหลวง ร.๙"

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ ทรงขึ้นพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพ (จริง) เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.
วันนี้ (26 ต.ค.) เมื่อเวลา 22.00 น.สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จเป็นการส่วนพระองค์ มายังพระที่นั่งทรงธรรม พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง เพื่อถวายพระเพลิงพระบรมศพ (จริง)
เมื่อเสด็จฯถึงพระที่นั่งทรงธรรม พระสงฆ์สวดมาติกา ทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ 30 รูป สดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นพระเมรุมาศ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ถวายพระเพลิงพระบรมศพ เจ้าพนักงานปิดพระฉากปิดพระวิสูตร เพื่อเตรียมการถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อเจ้าพนักงานปฎิบัติการถวายพระเพลิงพระบรมศพเสร็จแล้ว ทรงทอดผ้าไตร ที่พระจิตกาธาน พระสงฆ์ 10 รูป สดับปกรณ์ ครั้งละ 1 รูป เสร็จแล้วเสด็จฯกลับทางด้านหลังพระที่นั่งทรงธรรม

คนจีนก็เฝ้าดูพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และการเข้าเฝ้าส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยเป็นครั้งสุดท้ายของพสกนิกรชาวไทย

เพจอ้ายจงในเว็บไซด์เหว่ยป๋อ ของจีน ร่วมแสดงความไว้อาลัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ของไทย และมีชาวจีนเข้ามาแสดงความคิดเห็นแสดงความไว้อาลัย และกล่าวชื่นชมคนไทยที่รักในหลวงพระองค์นี้อย่างมากแม้จะลำบากลำบนเพียงใด อย่างหาที่ไหนในโลกไม่ได้ และนี่คือความคิดเห็นบางส่วนในเว็บไซต์ดังกล่าว

ความคิดเห็นบางส่วนของคนจีนต่อข่าว "ประชาชนไทยปักหลักรอเข้าร่วมงานพระราชพิธี แม้ฝนจะตก"

อ้ายจงขอมอบโพสต์นี้เป็นกำลังใจต่อพี่น้องชาวไทยทุกคน สิ่งที่ทุกคนทำ ไม่ใช่แค่คนไทยเห็น แต่ต่างชาติต่างภาษาอย่างชาวจีนก็เห็นและรับรู้ได้ครับ

@seawater_: 可以感受得到人民对国王的爱
สามารถรู้สึกได้เลยถึงความรักของประชาชนชาวไทยที่มีต่อพระมหากษัตริย์

@等下tsxx: 人家的国王。。。
พระมหากษัตริย์ของทุกคน

@兜兜无颜: 亲眼见证过泰国国民对九世王的尊敬与爱戴！🙏🙏🙏
ได้เห็นมากับตัวเองถึงความรักและเคารพที่ประชาชนไทยมีต่อในหลวง ร.9

@MEI_LIN_Z: 觉得泰国的信仰好坚定
ฉันคิดว่าศรัทธาของคนไทยแรงกล้าจริงๆ

@乱七八糟迷迷糊糊: 14年去泰国正好遇上泰王生日，到处很喜庆，16年去泰国正好泰王驾崩，泰国人民都是充满伤痛，可以看出泰国人民很爱他们的国王。
เมื่อปี 2014 ไปไทยตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวง ร.9 พอดี ทุกๆที่ต่างเต็มไปด้วยการเฉลิมฉลอง แต่เมื่อปี 2016 ไปไทยอีกครั้ง ตรงกับช่วงที่ในหลวง ร.9 สวรรคตพอดี ประชาชนไทยเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเจ็บปวด สามารถเห็นได้เลยว่าประชาชนไทยรักพระมหากษัตริย์มากจริงๆ

@西西里De海风: 前段时间去泰国 真的感受到人民爱戴国王🙏🙏
ก่อนหน้านี้มีโอกาสไปไทย รับรู้ได้จริงๆ ว่าคนไทยรักพระมหากษัตริย์จริงๆ

@瑶子峰: 感动
ประทับใจ

@木囡雨: 信仰的存在🙏🙏🙏
ศรัทธาที่มีอยู่จริง

@大饼脸的大马猴: 普密蓬国王在泰国已经深入人心，敬佩
ในหลวงร.9 อยู่ในใจของคนไทยทุกคน

@只家格: 信仰的力量🙏
พลังแห่งศรัทธา

อ้ายจงนำความคิดเห็นมาจากเพจต่างๆที่ลงเนื้อหาเกี่ยวกับไทยใน Weibo โซเชียลจีน อย่าง 很泰国 อันนี้เป็นเพจของทางอ้ายจงเอง

#อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก หน้าเพจ Thaiwinds

บรรยากาศสุดเศร้า ! พสกนิกรรอบพระบรมมหาราชวังรอร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ

บรรยากาศรอบพระบรมมหาราชวัง พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศนั่งรอเต็ม 2 ข้างทาง เพื่อจะได้ร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช 
เช้าวันนี้ (26 ต.ค.) บรรยากาศรอบพระบรมมหาราชวัง พสกนิกรจากทั่วทุกสารทิศนั่งรอเต็ม 2 ข้างทางบริเวณ เพื่อจะได้ร่วมในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ขบวนพระราชอิสริยยศฯ เข้าสนามหลวงเตรียมพร้อมพระราชพิธีอัญเชิญพระโกศพระบรมศพเช้านี้

เจ้าหน้าที่เคลื่อนพระยานมาศสามลำคานจากโรงราชรถ เข้าพื้นที่ท้องสนามหลวง ตั้งแถวเตรียมพร้อมพระราชพิธีอัญเชิญพระโกศพระบรมศพไปพระเมรุมาศ

วันนี้ 26 ต.ค. เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. เจ้าหน้าที่เคลื่อนพระยานมาศสามลำคานจากโรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ไปเตรียมอัญเชิญพระโกศพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร โดยกระบวนพยุหยาตราสี่สาย จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งจะเริ่มพระราชพิธีในเวลา ๐๗.๐๐ น. เช้านี้

เครดิตข้อมูลและภาพจาก MGR online

ราชวงศ์ต่างแดนเริ่มเสด็จถึงไทยร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พสกนิกรยังหลั่งไหลส่งเสด็จครั้งสุดท้าย

ราชินีโซเฟียของสเปน

เดลิเมล์ - ราชวงศ์ต่างแดนเริ่มเสด็จพระราชดำเนินถึงกรุงเทพฯ เมืองหลวงของไทย เช่นเดียวกับเหล่าแขกผู้ทรงเกียรติจากทั่วโลกที่ค่อยๆ ทยอยเดินทางมาถึง เพื่อร่วมพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร
เจ้าชายแอนดรูว์ แห่งราชอาณาจักร, ราชินีโซเฟียของสเปน เสด็จพระราชดำเนินถึงประเทศไทยเป็นพระองค์แรกๆ ในวันพุธ (25 ต.ค.) เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรีบาห์เรน และคาดหมายว่าราชวงศ์ต่างแดนอื่นๆ จะเสด็จพระราชดำเนินถึงในช่วงเย็นวันเดียวกัน ในนั้นรวมถึงสมเด็จพระราชินีมาธิลด์แห่งเบลเยียม, มกุฏราชกุมารเฟรเดอริกแห่งเดนมาร์ก และ เจ้าชายอะกิชิโนะแห่งญี่ปุ่นและพระชายา เช่นเดียวกับแขกผู้ทรงเกียรติอื่นๆ

สมเด็จพระราชาธิบดี ราชอาณาจักรภูฏาน

เดลิเมล์ สื่อมวลชนของอังกฤษ ระบุว่า พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (26 ต.ค.) จะเป็นพระราชพิธีครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษของราชวงศ์ไทย และจะได้เห็นริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศตามโบราณราชประเพณี เคลื่อนผ่านถนนสายต่างๆ ในเมืองหลวง ก่อนถวายพระเพลิงพระบรมศพ
สื่อแห่งนี้รายงานว่า ตลอดระยะเวลาที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนได้เข้ากราบพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตรนั้น มีประชาชนเกือบ 12 ล้านคน หรือ 1 ใน 6 ของประชากรชาวไทยที่เดินทางมาเข้ากราบพระบรมศพ นับตั้งแต่พระมหากษัตริย์พระองค์นี้ทรงถึงแก่สวรรคตเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2016

นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรน

รายงานข่าวของเดลิเมล์ ระบุด้วยว่า จนถึงตอนนี้ มีพสกนิกรชาวไทยผู้เศร้าโศกอย่างน้อย 25,000 คน หลั่งไหลเข้ามาจับจองที่นั่งตามเส้นทางริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพฯ แม้มีฝนตกลงมาอย่างหนักเมื่อช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา และยังทยอยเข้ามาสมทบเพิ่มเติมอีกในวันนี้
สำนักพระราชวังคาดว่า จะมีประชาชนราว 250,000 คน ที่จะเดินทางมาร่วมพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในครั้งนี้

เจมส์ แมตทิส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา เดินทางถึงประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ(ขอบคุณภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม กระทรวงการต่างประเทศชองไทย เปิดเผยรายพระนามและรายนามบุคคลสำคัญต่างประเทศที่ยืนยันเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร อ้างข้อมูลจนถึงวันที่ 20 ตุลาคม 2560 ดังนี้
(1) สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี ราชอาณาจักรเลโซโท (H.M. King Letsie III and H.M. Queen Masenate Mohato Seeiso)
(2) สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี ราชอาณาจักรภูฏาน (H.M. King Jigme Khesar Namgyel Wangchuck and H.M. Queen Ashi Jetsun Pema Wangchuck)
(3) สมเด็จพระราชาธิบดีและสมเด็จพระราชินี ราชอาณาจักรตองกา (H.M. King Tupou VI and H.M. Queen Nanasipau’u)
(4) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และภริยา (H.E. U Htin Kyaw and Mrs. Su Su Lwin)
(5) ประธานประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และภริยา (H.E. Mr. Bounnhang Vorachith and H.E. Mrs. Khammueng Vorachith)
(6) ประธานาธิบดีสาธารณรัฐสิงคโปร์ และคู่สมรส (H.E. Madam Halimah Yacob and Mr. Mohamed Abdullah Alhabsee)
(7) สมเด็จพระราชินีราชอาณาจักรสวีเดน (H.M. Queen Silvia)
(8) สมเด็จพระราชินี ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (H.M. Queen Maxima)
(9) สมเด็จพระราชินีราชอาณาจักรเบลเยี่ยม (H.M. Queen Mathilde)
(10) สมเด็จพระราชินี ราชอาณาจักรสเปน (H.M. Queen Sofia)
(11) ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ฯเครือรัฐออสเตรเลีย และภริยา (H.E. General the Honourable Sir Peter Cosgrove and Lady Cosgrove)
(12) ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ฯแคนาดา (The Right Honourable Madame Julie Payette)
(13) อดีตประธานาธิบดี สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (H.E. Mrs. Megawati Soekarnoputri) 
(14) อดีตประธานาธิบดี สมาพันธรัฐสวิส(H.E. Mr. Joseph Deiss)
(15) อดีตประธานาธิบดี สหพันธรัฐเยอรมนี (H.E. Mr. Christian Wulff) 
(16) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรบาห์เรน (H.R.H. Sheikh Khalifa bin Salman Al Khalifa)
(17) มกุฎราชกุมาร ราชอาณาจักรเดนมาร์ก (H.R.H. Crown Prince Frederik)
(18) มกุฎราชกุมารราชอาณาจักรนอร์เวย์ (H.R.H. Crown Prince Haakon Magnus)
(19) แกรนด์ดุ๊กรัชทายาทราชรัฐลักเซมเบิร์ก (Hereditary Grand Duke Guillaume Jean Joseph Marie)
(20) รองสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียและสุลต่านแห่งรัฐเประ และพระชายา (H.R.H. the Sultan of Perak Darul Ridzuan Sultan Nazrin Muizzuddin Shah ibni Almarhum Sultan Azlan Muhibbuddin Shah Al-Maghfur-Lah and H.R.H. Tuanku Zara Salim the Raja Permaisuri of Perak Darul Ridzuan)
(21) ดุ๊กแห่งยอร์ก สหราชอาณาจักร (H.R.H. Prince Andrew, Duke of York)
(22) เจ้าชายอะกิชิโนะ แห่งญี่ปุ่น และพระชายา (H.I.H. Prince Akishino and H.I.H. Princess Akishino)
(23) พระอนุชาของเจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ (H.H. Prince Thani bin Hamad bin Khalifa Al-Thani)
(24) เจ้าหญิงมาร์กาเรตา ราชรัฐลิกเตนสไตน์ (H.R.H Princess Margaretha)

อู ทิน จอ ประธานาธิบดีเเห่งสาธารณรัฐเเห่งสหภาพเมียนมา พร้อมด้วยนางซู ซู ลวิน ภริยา เดินทางถึงประเทศไทยเพื่อเข้าร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร(ขอบคุณภาพจากกระทรวงการต่างประเทศ)

และรองประมุข หัวหน้ารัฐบาล และผู้แทนพิเศษ รวม 18 ประเทศ
(25) รองประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (H.E. Mrs. Dang Thi Ngoc Thinh)
(26) นายกรัฐมนตรี ราชอาณาจักรกัมพูชา (Samdech Akka Moha Sena Padei Techo Hun Sen)
(27) นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรสวาซิแลนด์ (H.E. Mr. Barnabas Sibusiso Dlamini)
(28) อดีตนายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ (H.E. Mr. James Bolger)
(29) อดีตนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐฝรั่งเศส และภริยา (H.E. Mr. Jean-Marc Ayrault and Mrs. Brigitte Ayrault)
(30) รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน (H.E. Mr. Zhang Gaoli)
(31) รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐตุรกี (H.E. Mr. Fikri I?ik)
(32) รองประธานรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลี (H.E. Mr. Park Joo-sun)
(33) รองประธานสภาผู้แทนราษฎรสหพันธรัฐรัสเซีย (H.E. Mrs. Olga Epifanova)
(34) รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการค้า คนที่ ๒ บรูไนดารุสซาลาม (Hon. Pehin Dato Lim Jock Seng) 
(35) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา (Hon. Gen. James Mattis)
(36) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ และภริยา (H.E. Mr. Alan Peter S. Cayetano and Mrs. Maria Laarni Cayetano)
(37) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงนโยบายและแผน สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และภริยา (Hon. Tilak Marapana and Mrs. Stella Marapana)
(38) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล และภริยา (Hon. Mr. Bhimsen Das Pradhan and Mrs. Bidya Banmali Pradhan) 
(39) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน (H.E. Mr. Awais Ahmed Khan Leghari)
(40) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ (H.E. Mr. Mohammed Sahriar Alam)
(41) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สาธารณรัฐอินเดีย (H.E. Mr. M. J. Akbar)
(42) เอกอัครสมณทูตนครรัฐวาติกันประจำสาธารณรัฐอินเดียและสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล แห่งนครรัฐวาติกัน(H.E. Archbishop Giambattista Diquattro)

เครดิตข้อมูลและภาพจาก MGR online

ถวายความอาลัย วันคล้ายวันสวรรคต

อุทกภัย นัยน์ตาโศก วิโยคหล้า
หลั่งน้ำตา กลั้นอาลัย สะอื้นหวน
กว่าจะผ่าน  อีกกี่คืน  คิดใคร่ครวญ
องค์พ่อหลวง อยากให้เรา เฝ้าทำดี

1 ขวบปี มีเรื่องเล่า งานของพ่อ
ร่วมสานต่อ สร้างความดี มิเลือนหาย
4 พันกว่า โครงแก้โจทย์ ประชาบาล
โลกโจษขาน สดุดี องค์ภูมิพล

เนื่องด้วยวันคล้ายวันสวรรคต ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร

13 ตุลาคม 2560

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ ข้าพระพุทธเจ้า บล็อกหยิกแกมหยอก