วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

โศกนาฏกรรมกรณีคดีของน้องแก้มกับอาชญากรบนรถไฟไทย กับโศกนาฏกรรมกรณีดราม่าความพ่ายแพ้ของเจ้าภาพกับฟุตบอลโลก


ขอแสดงความเสียใจและไว้อาลัยกับการจากไปของน้องแก้มและครอบครัวด้วย

ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งครับพี่ดาวิด ลุยส์ จากน้องฮาเมสเอง

โศกนาฏกรรมที่เกิดจากแรงกดดัน การประณาม เสียงกร่นด่า ความคาดหวังที่ไม่อยู่บนฐานของเหตุผลและความเข้าใจบนโลกแห่งความเป็นจริง นั้นน่ากลัวและรุนแรงกว่า

โศกนาฏกรรมกรณีน้องแก้มกับอาชญากรบนรถไฟไทย กับโศกนาฏกรรมกรณีดราม่าความพ่ายแพ้ของเจ้าภาพกับฟุตบอลโลก

ในช่วง 2-3 วันนี้ คงไม่มีเรื่องใดเป็นกระแสทอล์คออฟเดอะทาวน์ไปมากกว่า 2 เรื่องนี้อีกแล้ว ทันทีที่ข่าวแพร่สะพัดของการหายตัวไปของน้องแก้ม (ขอสงวนชื่อนามสกุลจริงของน้องเอาไว้) อายุ 13 ปี หน้าตาน้องน่ารักมาก ในคืนวันศุกร์ ติดตามมาด้วยการค้นพบศพของน้องแก้มในพงหญ้าข้างทาง ซึ่งมีร่องรอยของการถูกข่มขืน และตามมาด้วยข่าวการจับกุมผู้ต้องสงสัย (นายวันชัย แสงขาว อายุ 22 ปี)และสุดท้ายยอมรับสารภาพว่าเป็นคนข่มขืนและโยนร่างของน้องลงจากรถไฟในสภาพที่ยังมีลมหายใจอยู่ แต่สุดท้ายก็เสียชีวิต พัฒนาการของการติดตามข่าวของคนไทยและสังคมไทยต่อเหตุการณ์นี้เป็นไปอย่างลุ้นระทึกและสนใจติดตามอย่างใกล้ชิด จนทราบเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าคดีนี้เป็นการข่มขืนและฆ่าเหยื่อเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี จากนั้นก็อำพรางศพโดยการโยนลงจากตู้รถไฟที่กำลังวิ่งอยู่ และที่สะเทือนใจหนักเข้าไปอีกก็เมื่อสืบทราบว่า คนร้ายก็คือพนักงานลูกจ้างที่ทำงานอยู่บนตู้รถไฟนั่นเอง (ก่อนหน้านั้น ผู้ว่าการรถไฟฯ ได้ออกมาให้ข่าวปฏิเสธ โดยบอกว่าเป็นลูกจ้าง บ.สัมปทานรับเหมาปูผ้าเตียงนอนบนรถไฟ แต่ภายหลังก็ยอมรับ จนมุมด้วยหลักฐาน) ซึ่งมีพฤติกรรมทั้งเสพยาบ้า และดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอลล์ในขณะปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งตอนเกิดเหตุไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ แต่มีผู้รู้เห็นและร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่กับนายวันชัยอีก 2-3 คน ซึ่งล้วนแต่เป็นพนักงานลูกจ้างที่ในขบวนรถไฟ ตามมาด้วยกระแสสังคมที่เฝ้าติดตามข่าวนี้มีทั้งประณามและกดดัน ร่วมแชร์ และนัดจะรวมตัวกัน รณรงค์ ทำจดหมายเปิดผนึกลงชื่อ ร่วมต่อต้านและยื่นข้อเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายให้มีบทลงโทษผู้ที่ทำการข่มขืนควรได้รับโทษสถานเดียวคือประหารชีวิต โดยไม่มีข้อแม้หรือการลดหย่อนผ่อนโทษใดๆ แม้ว่าผู้ต้องหาจะยอมรับสารภาพในที่สุดก็ตาม คำถามที่ตามมามากมายในหลายๆ ประเด็นเกิดขึ้นมากมาย เช่น มาตรการความปลอดภัยบนตู้รถไฟ โดยเฉพาะตู้นอนและเป็นเที่ยวดึก ,ไม่มีตำรวจรถไฟเดินตรวจการณ์เลยหรือ , กฎระเบียบการคัดเลือกรับบรรจุพนักงานเข้าเป็นเจ้าหน้าที่ของการรถไฟ เหตุใดไม่มีการตรวจสอบประวัติภูมิหลัง เพราะทันทีที่ทราบว่าผุ้ต้องหานั้นเสพยาบ้าเป็นประจำ อีกทั้งเคยมีประวัติข่มขืนผู้หญิงมาก่อน เคยต้องคดีเกี่ยวกับยาเสพติดมาก่อนด้วย รวมถึงกฏเกณฑ์ที่หละหลวมอื่นๆ เช่น ไม่มีกล้องวงจรปิดบนตู้รถไฟในตัวอาคารและชานชาลาของสถานีรถไฟ ,เปิดโอกาสให้พนักงานสามารถนำเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ไปดื่มบนรถไฟได้ (โดยเฉพาะในขณะปฏิบัติงาน) ข้ออ้างทีว่ากฎระเบียบเดิมๆ เปิดโอกาสให้สามารถนำเครื่องดื่มขึ้นไปทานบนตู้รถไฟได้ปฏิบัติที่มีมานานแล้ว หรือสามารถจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์บนตู้รถไฟได้ เหตุเช่นนี้ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้น หรือเป็นคดีสะเทือนขวัญที่สุด ในรอบ 117 ปีของการก่อตั้งการรถไฟ โดยการให้ข่าวของผุ้ว่าการรถไฟคนปัจจุบัน (คุณประภัสร์ จงสงวน ในขณะนั้น ซึ่งบทความนี้เขียนขึ้นเมื่อวาน ณ ขณะโพสต์บทความนี้ ได้ถูกปลดออกจากตำแหน่งตามประกาศคำสั่งของ คสช.ฉบับที่ 89) ออกมาให้ข่าวแก้เกี้ยว ด้วยการบอกว่าตนเพิ่งมารับตำแหน่งได้ปีเศษ จะให้รู้ทุกเรื่องที่เกียวกับคนรถไฟ หรือน็อตทุกตัวของรถไฟก็คงไม่ใช่ แต่สิ่งที่สังคมตั้งคำถามและกดดันไปยังท่านนั้นก็เพียงต้องการให้ท่านกล่าวขอโทษและแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่ง มิได้หมายความว่าคนในสังคมคาดโทษว่าท่านต้องเป็นคนทำผิดหรืออยู่เบื้องหลังความผิดพลาดหรือล้มเหลวของการรถไฟ มันไม่ใช่ มันคนละประเด็นกัน ทุกคนในประเทศนี้ รู้ดีว่าปัญหาการรถไฟมีมาช้านาน และหมักหมม ฉาวโฉ่ หยำฉ่ามานานแล้ว เพียงแต่เหตุการณ์นี้มันร้ายแรงและสะเทือนต่อจิตใจของคนทั้งประเทศมากเกินไป เขาต้องการคนที่ออกมาแสดงความรับผิดชอบในเบื้องต้น และคงไม่มีอะไรดีไปกว่า การแสดงสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่งของผู้ว่าการรถไฟฯ เพื่อรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและในฐานะผู้นำองค์กรสูงสุด ซึ่งถือเป็นมารยาทของการแสดงความรับผิดชอบในแบบสากล ที่ในสังคมไหนในโลก เขาก็ทำกัน และไม่ได้เจาะจงเฉพาะตัวไปที่คุณประภัสร์ จงสงวน แต่ประการใด เพราะใครที่มานั่งในตำแหน่งนี้ แล้วต้องเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ ก็สมควรจะต้องปฏิบัติเช่นนั้น แต่ท่านกลับให้ข่าวเป็นว่า ไม่ขอลาออก เพราะว่าถ้าลาออกจะเสมือนเป็นการหนีปัญหา และการอยู่ในตำแหน่งจะสามารถทำงานแก้ปัญหาได้มากกว่า ท่านก็เลยถือโอกาส แสดงออกถึงความกระตือรือร้นโดยทันที ว่าจะเข็นมาตรการนั่นนี่โน่น ออกมาเพื่อจะอุดช่องโหว่และรอยรั่วขององค์กรแห่งนี้ ซึ่งทำงานไม่เข้าตาประชาชนมาช้านานแล้ว

หมายเหตุ วันนี้(10 ก.ค. 57)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรถไฟแห่งประเทศไทยได้ออก 5 มาตรการเร่งด่วนดูแลความปลอดภัยผู้โดยสาร พร้อมทบทวนมาตรการสร้างความเชื่อมั่นระยะสั้น-ยาว นำสู่การปรับปรุงมาตรฐานความปลอดภัยอย่างยั่งยืนมีดังนี้

1.ทบทวน+ตรวจสอบคุณสมบัติ+สอบประวัติลูกจ้างชั่วคราว90คนที่รับเข้าทำงานล็อตเดียวกับนายวันชัน แสงขาว ตรวจสอบใหม่ทั้งหมด

2.ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม สุขภาพจิตทุกคนก่อนว่าจ้างทำงานทั้งลูกจ้างชั่วคราว+ลูกจ้างประจำ ให้ สตช.ยืนยันประวัติอาชญากรรมจึงให้ปฏิบัติงาน

3.ห้ามขายเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์บนรถไฟ

4.ให้มีรถนอนชั้น 2 เฉพาะผู้หญิง (Lady Car) อย่างน้อยขบวนละ 1 คันในขบวนรถที่มีการพ่วงรถนอน

5.ติดปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉินภายในที่นอนบนขบวนรถนอนทุกคัน

ซึ่งอยากจะบอกว่ามันสายเกินไปมั๊ย เพราะว่าท่านนั่งอยู่ในตำแหน่งนี้มาปีกว่านั้น ไม่ถือว่าเป็นระยะเวลาที่สั้นเลย สามารถทำอะไรได้หลายอย่าง ท่านได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง เมื่อปีที่แล้วที่มีข่าวรถไฟตกรางหลายขบวน เรียกว่าเป็นข่าวรายสัปดาห์นั้น ท่านได้ทำอะไรไปแล้วบ้าง และในกรณีกระแสข่าวเรื่องการสอบบรรจุพนักงานลูกจ้างล็อตที่มีปัญหานี้กว่า 90 คน ซึ่งเป็นการสอบบรรจุที่มีการเปิดโปงว่าใช้เส้นสาย และหย่อนยานการตรวจสอบประวัติภูมิหลังพนักงานอย่างมาก ซึ่ง 1 ในจำนวนนั้น ก็มีนายวันชัย แสงขาวผู้ต้องหาสอบติดเข้ามาเป็นพนักงานและก่ออาชญากรรมจนงามหน้า ประจานองค์กร High Cost Low Service นี้จนไม่เหลือภาพลักษณ์ขององค์กรที่น่าเชื่อถืออยู่เลย (จริงๆ เดิมก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว) อีกทั้งยังทำลายชื่อเสียงของประเทศ ฉาวโฉ่ไปทั่วโลกด้วย ก็ต้องถือว่ามันอยู่ในช่วงที่ท่านดำรงตำแหน่งอยู่จะอ้างอะไรมาปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ได้ จริงๆ ดูจากการให้ข่าวและตอบคำถามสื่อที่ยื่นไมค์ถามท่าน ก็พอจะทราบวุฒิภาวะทั้งทางสติปัญญาและอารมณ์ของท่านได้เป็นอย่างดี ก็ทำให้ประชาชนโดยทั่วไปหมดความเชื่อถือ ขาดความเชื่อมั่นในฝีมือการบริหารของท่านไปหมดแล้ว อย่าว่าแต่จะให้นั่งบริหารงานเป็นผู้ว่าการรถไฟฯ เลย เป็นผู้ว่ารถไฟเหาะของแดนเนรมิตก็ยังไม่คู่ควรเลย เพราะว่าหากเกิดอุบัติเหตุจนลูกค้าที่มาใช้เครื่องเล่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ท่านก็คงตอบแบบเดียวกันว่า ไม่ขอลาออก จะอยู่เพื่อขอปรับปรุงเครื่องเล่นให้ดีเสียก่อน เพื่อให้บริการลูกค้าคนอื่นๆต่อไป งานนี้สิ่งที่เป็นงานยากและเป็นงานใหญ่ท้าทายขีดความสามารถของผู้ว่าการรถไฟฯคนใหม่ก็คือการกู้ภาพลักษณ์ให้กลับคืนมา การสร้างความเชื่อมั่น ความปลอดภัย ความศรัทธา ไว้วางใจของประชาชนให้กลับมาใหม่ ซึ่งคงเป็นสิ่งที่กว่าจะทำได้คงอีกนาน พร้อมๆ ไปกับการต้องลงไปแก้ไขปัญหาโครงสร้าง และจิตวิญญาณของคนการรถไฟแบบบูรณาการขนานใหญ่ เปลี่ยนวิธีคิด วิธีการทำงาน กระบวนทัศน์ วิสัยทัศน์ เป้าหมาย การประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานกันใหม่หมด ต้องทำงานแบบเอกชนมืออาชีพเขาทำงานกัน ไม่ใช่ทำงานแบบข้าราชการเมื่อยุค 117 ปีที่แล้วเขาทำกัน ปรับปรุงการกำกับดูแล ความโปรงใส การบริหารความคาดหวัง การสื่อสารองค์กร ตั้งเป้าหมายเป็นองค์กรธรรมาภิบาลให้ได้ ปรับเป็นระบบให้สัมปทานให้เอกชนเข้ามาบริหารในบางสายเส้นทาง เพื่อก่อให้เกิดการแข่งขันบ้าง สร้างรางคู่หรือ 4 รางเลยก็ได้ ให้มีการวิ่งผ่านไปเหนือใต้ออกตก ได้หลากหลายเส้นทาง เป็นทางเลือกในการขนส่งเดินทางที่สะดวกรวดเร็วและประหยัด จ้างผู้บริหารมืออาชีพที่มีความสามารถจริงๆ มานั่งบริหารและประเมินผลเป็นรายปี ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ต่อสัญญาแบบการบินไทย ปตท.เขาทำกัน อยากให้พนักงานของการรถไฟทำหน้าที่แข็งขันเหมือนแอร์สจ๊วตของสายการบินต้นทุนต่ำอย่าง Thaiair Asia ซึ่งคงต้องให้เอกชนทำจะดีกว่า มีพนักงานสาวสวยคอยเสิร์ฟให้บริการ พูดจาดี มีจิตใจให้บริการ (service mind) ,การตกแต่งตู้รถไฟมีความสวยงามสะอาดสะอ้าน เบาะที่นั่งนุ่มไม่แข็ง มีทีวีดิจิตอลให้ดู สถานีรถไฟสะอาด ห้องน้ำสะอาด มีร้านรวงเปิดให้ขายของ แต่ไม่ควรให้หิ้วขึ้นไปขายของบนขบวนรถไฟได้ เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย มีป้ายบอกทาง บอกขบวนรถ เวลา และเที่ยววิ่งขาไป-กลับ สาย,สถานที่ชัดเจน มีจอมอนิเตอร์บอกชัดเจน มีเครื่องตรวจจับวัตถุ มีกล้องวงจรปิด บลาๆๆๆ (ฝันไปหรือเปล่า...ท่านผู้ชม) คิดว่าถ้าอยากจะยกระดับมาตรฐานการรถไฟไทย ก็ต้องทำอย่างที่ผู้เขียนเสนอแนะมา มิเช่นนั้นก็จะล้าหลังที่สุดในอาเซี่ยนต่อไป คิดว่าถ้าทำการยกเครื่องทั้งระบบแล้ว ในช่วงแรกค่าโดยสารอาจจะถูกมองว่าแพง จนคนจนหรือคนส่วนใหญ่ที่เป็นคนต่างจังหวัดซึ่งเป็นตลาดสำคัญไม่สามารถใช้บริการได้ แต่หากเปิดเส้นทางได้หลากหลายเส้นทางเป็นระยะสั้นบ้าง ยาวบ้าง มีการบริการที่ดีทุกด้าน วันข้างหน้าการแข่งขันจะทำให้ค่าโดยสารถูกลงเอง หรือไม่ก็อยู่ในสภาพที่สมดุลคุ้มค่ากับการบริการ

มุมมองที่เกี่ยวกับจำเลยหรือผู้ต้องหาบ้าง ซึ่งผู้เขียนเห็นว่าไม่ค่อยมีคนพูดถึงหรือให้ความสำคัญ ซึ่งจริงๆแล้วก็คือต้นตอของอาชญากรรมในสังคมไทย โดยมากสังคมไทย พอเกิดเหตุร้ายแรงแล้วก็จะมองไปที่ปลายเหตุ คือให้ไปแก้ที่กฎหมาย แต่จริงๆ ควรแก้ที่ต้นเหตุของปัญหา หรืออย่างน้อยควรจะมีการรณรงค์ในส่วนของต้นตอของปัญหาควบคู่ไปด้วย อะไรคือต้นตอของปัญหาบ้าง

-เบ้าหลอมทางสังคมหรือครอบครัว หรือแบ็คกราวน์ ของชายคนนี้ ซึ่งจริงๆ ก็ต้องถือว่าเขายังเป็นคนอายุน้อย จิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคม ประสบการณ์ในชีวิตยังไม่มาก หน้าที่การงาน การศึกษา ฐานะทางครอบครัว เป็นอย่างไร สื่อมวลชนทั้งหลายช่วยไปเจาะประวัติที ว่าเป็นอย่างไร สภาพแวดล้อมที่เขาอยู่ เป็นเด็กมีปัญหาหรือไม่ ครอบครัวขาดความอบอุ่นหรือไม่ (บางคนอาจจะบอกว่า ไม่ต้องไปสืบหรอก ร้อยทั้งร้อยเป็นเด็กมีปัญหาทั้งสิ้น และฐานะ การศึกษาไม่ได้ช่วยอะไร ลองดูกรณีของเด็กหนุ่มที่ฆ่ายกครัวของตนเอง เป็นเด็กที่เรียนดี ฐานะทางบ้านดี ก็ยังตัดสินใจก่ออาชญากรรมขั้นร้ายแรง ปิตุฆาตได้ ดู link ข่าวนี้ http://www.manager.co.th/AstvWeekend/ViewNews.aspx?NewsID=9570000029491 ) ล่าสุดพ่อของนายวันชัย ผู้ต้องหารายนี้ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวและออกรายการทางโทรทัศน์ช่อง อมรินทร์ทีวี โดยเปิดเผยภูมิหลังของเด็กคนนี้และนิสัยใจคอ

-ค่านิยมของสังคมไทย ที่หากเกิดเป็นลูกผู้ชาย ควรหัดให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ตั้งแต่วัยรุ่น หรือพฤติกรรมเลียนแบบ พ่อแม่พี่น้องญาติ ตั้งวงดื่มเหล้าเบียร์ทุกเย็นหรือหลังเลิกงาน จนกลายเป็นค่านิยมในสังคมไทย โดยเฉพาะพี่น้องตามต่างจังหวัด ซึ่งไม่แปลกใจว่าประเทศไทยติดอันดับเป็นประเทศที่มียอดขายสุรา แอลกอฮอลล์ติดอันดับโลก และมีนักดื่มเป็นอันดับ 5 ของโลก, ดู link ข่าวนี้http://cas.or.th/index.php/news/7798 กับ https://th-th.facebook.com/NationChannelTV/posts/10152290798863083 ) ถ้าไม่มีการแก้ไขหรือรณรงค์ปรับเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องนี้ให้กับเยาวชน คนรุ่นใหม่ให้เลิกทดลอง หรือเสพติดการดื่มเหล้า เบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ เห็นทีปัญหาอาชญากรรมคงไม่ลดลง เพราะสิ่งเหล่านี้แหละคือต้นตอของปัญหาอาชญากรรมเพราะเวลาเมาแล้วจะขาดสติ ไม่สามารถควบคุมตนเองได้ บางคนอาจจะเถียงว่าฉันดื่ม แต่ไม่เคยไปก่ออาชญากรรมในทีใดให้ใครเดือดร้อนมาก่อน อย่ามาเหมาเข่งรวมกล่าวหากัน ก็จะขอบอกว่าเรารณรงค์ในหมู่เยาวชน คนรุ่นใหม่เท่านั้น ที่เขายังอ่อนประสบการณ์และถูกชักจูงให้ลองง่ายๆ เท่านั้น หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะบรรดาพวกไม้แก่ดัดยากนั้น คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรม และครรลองของกฏหมายจะไว้คอยเล่นงานหรือลงโทษ หากเกิดเหตุขึ้นมา)

-ปัญหายาเสพติด ยังคงมีระบาดอยู่ในสังคมไทย เหตุก็เพราะว่า ชายคนนี้ยังสามารถซื้อยาบ้ามาเสพได้ง่ายๆ จากสตรีคนหนึ่งที่นำมาขายให้บริเวณสถานีรถไฟ ก่อนที่จะเคลื่อนขบวนออกจากสถานี ตรงนี้ต้องมีการตรวจสอบ กวาดล้างให้สิ้นซาก อย่าให้มีซื้อขายกันง่ายราวกับร้านเซเว่น

-สื่อมวลชน ละครโทรทัศน์ เซเลบหรือคนดังทั้งหลาย มักมีส่วนชี้นำ ชักจูง กระตุ้น และสร้างค่านิยมที่ไม่ดีให้กับวัยรุ่นเอาเป็นแบบอย่าง หรือพฤติกรรมเลียนแบบ ไม่ว่าจะเป็นการลงภาพโป๊ ล่อแหลม การแต่งกายล่อแหลมของบรรดานักแสดงที่เป็นไอด้อลคนดัง บทละครที่มีฉากข่มขืน โป๊เปลือยอนาจาร บทเข้าพระเข้านางแบบจงใจขายความเซ็กซี่ โดยที่สถานีโทรทัศน์และกสทช.ไม่ช่วยกันตรวจสอบหรือควบคุม หรือแม้กระทั่งภาพความรุนแรง ประเภทอื่นๆ เช่น การจิก ตบ การด่าทอด้วยภาษา วาจาที่ไม่สุภาพ การพูดประชดประชันเสียดสีด้วยท่าที สีหน้าของนักแสดง ฯลฯ มากมาย มีส่วนที่ทำให้ไปกระตุ้นหรือเกิดการชี้นำความคิด พฤติกรรมการลอกเลียนแบบ แม้อาจจะไม่จงใจ หรือรุนแรงต่อกันในความเชื่อของคนดูละครจริงๆ แต่เมื่อผ่านการตอกย้ำ ซ้ำๆ บ่อยๆ เข้าก็อาจกลายเป็นพฤติกรรมที่คุ้นชินไปโดยปริยาย และฝังลึกในมโนสำนึกของเด็กเยาวชน ที่ยังไม่มีวิจารณญาณที่ดีพอ หรือมีจริยธรรมศีลธรรมในจิตใจอย่างเข้มแข็ง ทั้งหลายทั้งปวงนั้น เป็นที่มาของการก่ออาชญากรรมโดยลอกเลียนแบบจากสื่อในทีวี ภาพยนตร์ เกมส์ หนังสือ เป็นผู้ชี้นำ สร้างอิทธิพลหรือแรงบันดาลใจอย่างไม่รู้ตัว เป็นต้น

กรณีดราม่า ผลการแข่งขันฟุตบอลโลกระหว่างบราซิล vs เยอรมัน


ผลการแข่งขันที่เป็นอภิมหาช็อคโลกนี้ ด้วยผลการแข่งขันที่ออกมาว่า ทีมบราซิลพ่ายยับต่อทีมเยอรมัน ด้วยสกอร์ 1:7 ลูก ไม่เพียงสร้างผลกระทบกระเทือนจิตใจแค่ผู้เล่นในทีมบราซิล โค้ช ประชาชนคนดูซึ่งเป็นชาวบราซิลทั้งประเทศเท่านั้น แต่ยังผลไปถึงแฟนบอลบราซิลทั่วโลกด้วย มูลเหตุจูงใจ ก็มีหลายกระแสต่างพูดกันว่า สภาพจิตใจของผู้เล่นนั้นไม่แข็งแกร่ง และเริ่มออกอาการไม่ดีมาตั้งแต่รอบ 16 ทีมแล้ว ที่ขนาดจะต้องจ้างนักจิตบำบัดเข้าไปทำการรักษาสภาพจิตใจและปลุกเร้าให้กับผู้เล่นในทีมบราซิลให้มีความฮึกเหิมและคลายความกดดันในทีมเสีย พอผ่านมาถึงรอบตัดเชือกเหลือ 4 ทีมสุดท้ายนั้น ก่อนแข่งก็ต้องเสียผู้เล่นคนสำคัญไป 2คน ซึ่งเป็นหัวใจของทีมอย่าง เนย์มาร์และซิลวา ซึ่งเป็นเพลย์เมกเกอร์ของทีม ยังผลให้สภาพในทีมระส่ำระสาย ต้องหาผู้เล่นคนอื่นที่มีศักยภาพด้อยกว่ามาลงเล่นแทน และปรับแผนการเล่นใหม่ จนยังผลมาถึงผลการแข่งขันกับทีมเยอรมัน ที่ทำให้ปราชัยพลาดท่าแพ้เสียประตูเป็นสถิติสูงสุดของทีมและของเจ้าภาพบอลโลกด้วย กลายเป็นตราบาปของผู้เล่นในทีมชุดนี้ โค้ช และประชาชนคนดูที่รับไม่ได้ เพราะถือว่าตนเองได้เปรียบในฐานะเจ้าภาพแล้ว ภายหลังทราบผลการแข่งขันของแม็ทช์นี้ โดยที่ผุ้เขียนไม่ได้ดูตอนถ่ายทอดสด ได้มาดูตอนที่เป็นเทปและภาพข่าวแล้ว ก็รู้สึกเสียใจและสงสารผู้เล่นบางคนเช่นกัน ภาพที่ดาวิด ลุยส์เดินลูบหัวปลอบประโลมฮาเมส รอดริเกวซ ศูนย์หน้าดาวรุ่งของทีมโคลัมเบีย ในนัดที่บราซิลเฉือนชนะโคลัมเบียนั้น เป็นอารมณ์เดียวกับที่ดาวิด ลุยส์ยืนร้องไห้ ในฐานะสวมปลอกกัปตันทีมบราซิล โดยมีดิอาโก้ ซิลวา เพื่อนร่วมทีมเข้ามาปลอบ ไม่คิดว่าจะได้เห็นฉากดราม่าสุดบรรยายในฟุตบอลโลกหนนี้ นาทีแห่งความผิดหวัง พลาดหวัง ปราชัย นั้นเป็นอารมณ์เดียวกัน เทียบแบบช็อตต่อช็อต ผู้เขียนเห็นแล้วทั้งเสียใจและน้ำตาไหลไปกับพวกเขาเช่นกัน เห็นภาพนั้นแล้วนึกไปถึงตอนดูหนังเรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวร ภาคล่าสุด ตอนสงครามยุทธหัตถี อารมณ์ตอนที่มังสามเกียด (พระมหาอุปราชา) ต้องออกไปท้ารบสู้กับพระนเรศวร ทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองต้องพ่ายแพ้ หากออกรบในตอนนั้นโดยมีโหรมาทำนายไว้แล้ว แต่ก็จำใจต้องออกไปรบ แสดงความกล้าให้พระราชบิดา (พระเจ้านันทบุเรง)ได้ทรงเห็น ด้วยแรงปรามาส ดุด่า นั้นเป็นแรงกดดัน แบบเดียวกับที่ทีมบราซิลเจอ ก็คือแบกรับเอาแรงกดดัน ความคาดหวังจากประชาชนคนของเขาทั้งประเทศ แบกเอาศักดิ์ศรีความเป็นแชมป์ 5 สมัย ทีมแชมป์ที่ยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์มนุษย์ชาติด้านฟุตบอล ในสภาพคนเราที่ต้องมีวันต้องท้อ ต้องเหนื่อย ต้องอ่อนแอ ต้องการกำลังใจอย่างสูงส่ง บางครั้งโชคไม่ช่วย ไม่สามารถเค้นฟอร์มหรือศักยภาพได้สูงสุดออกมาได้ในวันนั้น ขาดซึ่งปัจจัยเกื้อหนุนต่างๆ ทำให้ปราชัยอย่างง่ายดาย



ดังนั้น สิ่งที่ผู้เขียนคิดว่ามูลเหตุของความปราชัยนั้นอยู่ที่สภาพจิตใจของผู้เล่นในทีมมีส่วนสำคัญที่สุด ซึ่งผสมรวมกันมากับความกดดัน แบกเอาความคาดหวังที่สูงลิ่วของคนทั้งประเทศ บวกกับศักยภาพ ความไม่พร้อมในทีม เป็นปัจจัยร่วมที่ทำให้เกิดโศกนาฏกรรมนี้ขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ จึงอยากให้กำลังใจทีมบราซิลชุดนี้ให้สู้ต่อไป ให้กำลังใจโค้ช ที่ทำดีที่สุดแล้ว ให้กำลังใจแก่ประชาชนชาวบราซิล ที่ทำหน้าที่ของความเป็นเจ้าภาพได้อย่างสมบูรณ์ดีแล้ว การไม่ได้แชมป์ในหนนี้ ไม่ใช่ความเสียหาย เสียหน้าแต่ประการใด โอกาสหน้ายังมี ค่อยแก้ตัวใหม่ ยังไงเสียทีมบราซิลก็ยังคงเป็นทีมฟุตบอลโลกที่ยิ่งใหญ่ในใจของคนทั่วโลกอยู่ดี กลับไปปรับปรุงแก้ไขจุดบกพร่องและสร้างทีมขึ้นมาใหม่ กลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งเสมอ เปรียบดังคนเรา ย่อมต้องเคยเจออุปสรรค ความผิดพลาด ความล้มเหลว คนล้มแล้วอย่าข้าม โปรดช่วยกันให้กำลังใจแก่เขา ให้ลุกขึ้นแล้วสู้ต่อไป เพราะบาดแผลของความล้มเหลวว่าเจ็บแล้ว ต้องรอเวลาของการเยียวยารักษานานพอสมควร ไม่ควรที่คนผู้นั้นจะต้องถูกแทงซ้ำที่บาดแผลเดิม จากอาวุธที่เรียกว่าเสียงกร่นด่า ประณาม เยาะเย้ย ถากถาง เสียดสี ประชดประชัน ซ้ำเข้าไปอีก จะทำให้บาดแผลนั้นฝังลงไปในจิตใจจนไม่อาจจะลบลืมเลือนได้ กลายเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำดาบสอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น