วันศุกร์ที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2557

Coming of Age ฉันจึงมาหาความหมาย ช่องว่างระหว่างวัยเด็กสู่วัยผู้ใหญ่

เดือนนี้เป็นเดือนแห่งปีใหม่และเป็นเดือนที่มีวันสำคัญ 2 วันก็คือวันเด็กและวันครู ขอกล่าวถึงแต่วันเด็กก่อน ซึ่งถือว่าเด็กคืออนาคตของชาติ และทุกสังคมมักให้ความสำคัญกับเด็กอันถือเป็นเยาวชนของชาติ ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ผู้เขียนมีโอกาสได้ดูหนังที่เกี่ยวกับเด็กอยู่หลายเรื่อง และจัดเป็นหนังในกลุ่มหรือแนวที่เรียกว่า Coming of Age การค้นหาตัวตน หรือประสบการณ์อะไรบางอย่าง (จะดีหรือร้ายก็ได้) ซึ่งเป็นช่องว่างระหว่างทางที่เขากำลังจะก้าวจากวัยเด็กไปสู่วัยผู้ใหญ่ บางคนก็เรียกหนังแนวนี้ว่าเป็นหนัง "ช่วงเปลี่ยนผ่านของวัยรุ่น" นั่นแหละ เรียกง่ายๆ เช่นนั้น จะเรียกอย่างไรก็แล้วแต่ หนังแนวนี้เป็นอีก category นึงที่ผู้เขียนชอบดูเป็นที่สุดเลย หนังฮอลลีวู้ดมีออกมาเกือบทุกปี ปีละหลายๆ เรื่อง ในเอเซียอย่างไต้หวัน ญี่ปุ่น เกาหลีก็เยอะ ของไทยก็พอเห็นอยู่บ้างเมื่อปีที่แล้ว อาทิ ชัตดาวน์, เกรียนฟิคชั่น ,ตั้งวง  ความน่าสนใจของหนังแนวนี้ก็คือ พล็อต การแสดง ประเด็นของหนังที่ต้องการนำเสนอ จุดเปลี่ยน การคลี่คลายปม การจบแบบคลี่คลายประเด็น หรือให้คิดต่อ จุดที่พีคของหนังก็คือการเร้าอารมณ์คนดู ในช่วงจุดเปลี่ยนของสถานการณ์ และข้อคิดที่ได้จากภาพยนตร์ ดาราซุปเปอร์สตาร์ดังๆ ในฮอลลีวู้ดหลายคนแจ้งเกิดจากบทของหนังในแนวๆ นี้ทั้งนั้น ถ้าจะดูหนังซัก 1 เรื่องให้ได้คุณค่าอะไรกับชีวิตหรือข้อคิดดีๆ หรือเพื่อนำพาเรากลับไปย้อนวัย ผู้เขียนมักจะหาหนังแนวนี้มาดู อย่างน้อยได้หวนรำลึกหรือนั่ง time machine กลับไปในช่วงวัยรุ่นได้อีกทางนึง ผู้เขียนได้ดูหนังแนวนี้ในช่วงปีใหม่ 3 เรื่อง ชอบและประทับใจกับทั้ง 3 เรื่องมากครับ ขอนำมาลงทั้ง 3 เรื่องดังนี้

Moonrise Kingdom คู่กิ๊กซ่าส์ สารพัดแสบ

Moonrise Kingdom  หนังปี 2012, นักแสดง บรูซ วิลลิส รับบท ผู้กองชาร์ป นายอำเภอท้องถิ่น เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน รับบท วอร์ด หัวหน้ากลุ่มลูกเสือกากี บิล เมอร์เรย์ และ ฟรานซิส แม็คดอร์มานด์ รับบท มิสเตอร์และมิสซิสบิช็อป พ่อแม่ของเด็กผู้หญิง ทีมนักแสดงของเรื่องนี้ยังรวมถึง ทิลดา สวินตัน, เจสัน ชวอร์ทซ์แมน, บ็อบ บาลาบัน และขอแนะนำ จาเร็ด กิลแมน และ คารา เฮย์เวิร์ด ในบท แซม และ ซูซี เด็กชายและเด็กหญิงตัวเอกของเรื่อง ร่วมอำนวยการสร้างโดย มอลลี คูเปอร์, ลีลา ยาค็อบ ออกแบบเครื่องแต่งกายโดย คาเซีย วาลิคก้า ไมโมน ควบคุมเพลงมาร์ชลูกเสือโดย มาร์ค มาเธอร์สบัฟ แสดงโดย ปีเตอร์ จาร์วิส และ วงดนตรีดรัม คอร์ปส์ ของเขา ดนตรีดั้งเดิมโดย อเล็กซานเดร เดสแพลท ควบคุมดนตรีโดย แรนดัล โปสเตอร์ ลำดับภาพโดย แอนดรูว์ ไวส์บลัม เอซีอี, ออกแบบงานสร้างโดย อดัม สต็อคเฮาเซน กำกับภาพโดย โรเบิร์ต โยแมน, เอเอสซี ควบคุมงานสร้างโดย แซม ฮอฟแมน, มาร์ค รอยบอล อำนวยการสร้างโดย เวส แอนเดอร์สัน, สก็อต รูดิน, สตีเวน เรลส์, เจเรมี ดอว์สัน เขียนบทโดย เวส แอนเดอร์สัน และ โรมัน คอปโปลา กำกับโดย เวส แอนเดอร์สัน

เรื่องนี้ เกิดขึ้นบนเกาะนอกชายฝั่งนิวอิงแลนด์ในฤดูร้อนปี 1965 บอกเล่าเรื่องราวของเด็กอายุ 12 ขวบสองคนที่ตกหลุมรักกัน ทั้งคู่แอบทำสัญญาลับด้วยกันและได้หนีตามกันไปอยู่ในป่า ขณะที่เจ้าหน้าที่หลายฝ่ายพยายามตามหาตัวพวกเขา พายุรุนแรงก็พัดเข้าโจมตีชายฝั่ง และทุกอย่างในเกาะที่สงบสุขแห่งนี้ก็เปลี่ยนแปลงไป ตัวหนังเล่าเรื่องราวความรักของเด็กหนุ่มและหญิงสาว 2 คนวัยประมาณ 12 ขวบ แซมเป็นเด็กกำพร้าที่อาศัยอยู่กับพ่อแม่อุปถัมภ์ ในขณะที่ซูซี่พักอาศัยอยู่กับบิดามารดาแท้ๆ ของตนเองพร้อมๆกับน้องชาย อีก 3 คน ทั้ง 2 คนได้พบรักกันในขณะที่ และแอบนัดเจอกันที่แคมป์ลูกเสือที่แซมมาพักค่ายเป็นสถานที่พลอดรักกัน และจำลองการใช้ชีวิตร่วมกันแต่แซมเองไม่ได้ปรารถนาจะเป็นลูกเสือ ทำตัวเป็นกบฏต่อครูฝึกทุกอย่าง และทำเรื่องขอลาออกในระหว่างที่มาพักค้างแรมอยู่ในค่าย ทำให้บรรดาครูฝึกทั้งหลายโกรธและพากันออกตามหาตัวของเขา โดยไม่รู้ว่าแซมได้ก่อเรื่องลักพาตัวหรือพาลูกสาวของคนอื่นหนีมาพลอดรักกันอยู่ที่ค่ายลูกเสือแห่งนี้ การกลับเป็นว่าเมื่อครูฝึกได้รู้ข้อเท็จจริงของปัญหา ว่าแซมที่แท้แล้วเขาไม่ใช่เด็กมีปัญหา ที่คอยแต่สร้างเรื่องให้คนอื่น แต่แท้ที่จริงแล้วเขาเป็นเด็กกำพร้า ที่ขาดความอบอุ่น แต่เขาเป็นเด็กที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่ และโตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตของตนเองได้ เมื่อฟังแนวคิดของแซมแล้ว ครูฝึกทั้งหลายถึงกับอึ้ง ทุกคนต่างเข้าใจในตัวแซมมากขึ้น และอยากให้แซมได้มีพ่อแม่บุญธรรมที่แท้จริง โดยให้สถานสงเคราะห์มาช่วยดูแล แต่สาวนักสังคมสงเคราะห์ในเรื่องนั้น ไม่ได้มีจิตวิญญาณของความรักเด็กหรือเอาใจใส่ หรือเอื้ออาทรต่อเด็กมากนัก การจะปล่อยให้แซมไปอยู่ในเอื้อมมือของสังคมสงเคราะห์ที่จัดหาพ่อแม่ผู้ดูแลให้ จึงอาจไม่ใช่ทางออกที่ดีสำหรับแซม


Mud คนคลั่งบาป

หนังปี 2012 ,ผู้กำกับและเขียนบท เจ็ฟ นิโชล ,นักแสดง แม็ทธิว แม็คคอนนาเฮย์,รีส วิเธอร์สพูน,ไท เชอริแดน, จาค็อบ ลอฟแลนด์

หนังเล่าเรื่องของเอลลิส (ไท เชอริแดน) เด็กชายวัย 14 ปี ครอบครัวชนชั้นกลางที่พ่อมีอาชีพส่งปลาสดขาย โดยมีเอลลิสติดสอยห้อยท้ายรถไปส่งปลากับพ่อทุกวัน ที่ออกจากบ้านในเช้าตรู่วันหนึ่งเพื่อไปพบกับเพื่อนสนิทวัยไล่เลี่ยกันที่ชื่อ เนคโบน (เจคอบ ลอฟแลนด์) เด็กที่มีพ่ออยู่ตามลำพังในครอบครัวที่ทำอาชีพเก็บซากเศษเหล็กหรือขยะขาย หลังจากฝ่ายหลังเล่าให้ฟังว่า เขาได้ไปพบเจอเรือลำหนึ่งค้างเติ่งอยู่บนต้นไม้บนเกาะเล็กๆ ที่ห่างไกลจากสายตาผู้คนบนแม่น้ำมิสซิสซิปปี เด็กชายทั้ง 2 คนที่มีชีวิตอยู่กับการขับขี่มอเตอร์ไซต์ไปเที่ยวเล่น ก็ตื่นเต้นราวกับว่านั่นเป็นการค้นพบสมบัติอันล้ำค่า แต่ความดีใจก็เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ชั่วยามเท่านั้น เมื่อพวกเขาพบว่ามีใครบางคนได้มาจับจองเรือลำดังกล่าวเอาไว้เสียก่อนแล้ว ชายแปลกหน้าผู้นั้นบอกว่าตนเองชื่อ มัด (แมทธิว แม็คคอนนาเฮย์) มัดเล่าเรื่องราวชีวิตอันแสนโลดโผนให้เพื่อนวัยเยาว์ของเขาฟัง ว่าเขากำลังหลบหนีการจับกุมตัวของตำรวจ และเหล่านักล่าค่าหัว นักเลงมาเฟีย หลังจากที่เขาต้องคดีอุกฉกรรจ์ ไปฆ่าลูกชายของเจ้าพ่อมาเฟียคนหนึ่งที่บังอาจมาจีบแฟนของเขาที่ชื่อจูนิเพอร์ (รีส วิสเธอร์สปูน) มัดขอให้สหายเด็กชายทั้ง 2 คนช่วยนำจดหมายรักของเขาไปมอบให้จูนิเพอร์ เพื่อเขาจะได้หนีไปใช้ชีวิตร่วมกัน มัดตั้งใจว่าเมื่อซ่อมเรือเสร็จ เขาจะนัดแฟนสาวที่ชื่อ จูนิเพอร์ หนีไปใช้ชีวิตร่วมกัน แต่เหตุการณ์เกิดพลิกผัน เมือจอมวายร้ายมาเฟีย ทราบว่ามัดแอบติดต่อกับจูนิเพอร์ จึงส่งคนมาเฝ้านางไว้ และวางแผนอุบายหลอกล่อให้มัดมาติดกับ เพื่อจะได้สังหารล้างแค้นให้กับลูกชายของเขา

เรื่องนี้มีเส้นเรื่องที่ซ้อนกันอยู่ 2 เส้นเรื่อง 1 ก็คือความรักและวิบากกรรมความรักของมัดกับแฟนสาวของเขา โดยมีตัวละครเด็ก 2 คนเข้ามาเกี่ยวข้องรวมถึงแก๊งค์มาเฟียในการผูกโยงและสร้างสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน อีกเส้นเรื่องหนึ่งเป็นเรื่องของปัญหาในครอบครัวของเอลลิส ที่พ่อกับแม่มักมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งโต้เถียงกัน ในขณะที่เอลลิสกำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่น(ปัญหาชีวิตของเด็กวัยรุ่นและครอบครัวเหมือนกันทั้งโลก) เขาไม่เข้าใจสิ่งที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน และไม่อยากรับรู้ปัญหา ไม่ค่อยอยากพูดคุยกับพ่อนัก ชีวิตส่วนใหญ่ขลุกอยู่กับเนคโบนเพื่อนซี้ เขาอยุ่ในวัยค้นหาตัวตน เขาอยากมีแฟนเหมือนกับเพื่อนในโรงเรียน จนไปจีบเพื่อนสาวรุ่นพี่ แล้วมาวันหนึ่งก็ถูกรุ่นพี่คนนั้นหักอกเอา ในขณะที่เนคโบนเป็นเด็กใสๆ ที่ไม่ค่อยคิดมากเหมือนเอลลิส ชีวิตไปวันๆ แต่เขากับพ่อคุยกันราวกับเพื่อนสนิท พ่อของเขาสอนและปฏิบัติตัวให้เห็นถึงงานการ และปัญหาทุกเรื่องที่พ่อเขาสามารถแก้ปัญหาได้หมด เป็นตัวอย่างให้เนคโบนเห็นและให้เดินตาม ซึ่งแตกต่างจากเอลลิสที่เป็นเด็กที่อ่อนไหวและไวต่อความรู้สึก ครั้งหนึ่งที่เอลลิสไปเห็นว่าจูนิเพอร์ยืนกอดก่ายและดื่มเหล้ากับชายหนุ่มอื่นอยางสุขหรรษา ในขณะที่มัดกลับให้เขาเป็นคนกลางประสานให้นัดเจอกัน โดยที่วันนัดนั้น จูนิเพอร์กลับแสดงออกให้เห็นว่าเธอไม่ได้อยากหนีหรือไปตามนัด ทำให้เอลลิสเสียใจและกลับไปต่อว่าต่อขานมัดว่าหลอกใช้เขา ไม่จริงใจ รู้ทั้งรู้ว่าผู้หญิงไม่ได้รัก แต่ก็แกล้งทำเป็นงอนง้อ และหลอกใช้เขา(เอลลิส)เป็นเครื่องมือ ทำเหมือนกับเขาเป็นเด็กไม่มีชีวิตจิตใจ เอลลิสเสียใจมาก โกรธและวิ่งหนีจนไปตกบ่อที่มีงูพิษอยู่ เนคโบนวิ่งไปบอกมัด จนมัดต้องเสี่ยงตายนำตัวเอลลิสไปให้ถึงมือหมอ จากนั้นเขาก็ต้องหลบหนีไป เพราะมีหมายจับตัวเขาอยู่ ความดีที่ช่วยเหลือชีวิตเขาในครั้งนั้น ทำให้เอลลิสซาบซึ้งใจและเข้าใจโลกมากขึ้น พ่อกับแม่เอลลิสกลับมารักกันและ เข้าใจว่าโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่ขาวกับดำไปด้านใดด้านหนึ่ง ไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ ทุกคนต่างมีปัญหากันทั้งนั้น จะไปเอาอะไรแน่กับใจคน หมายถึงความรัก ซึ่งกาลเวลาอาจทำให้ใจคนเปลี่ยนแปลงไปได้ ในเรื่องนั้น ไม่บอกให้เห็นว่าบทสรุปของมัดกับจูนิเพอร์นั้นลงเอยกันอย่างไร ปล่อยให้คนดูคิดไปเองได้หลากหลายทาง เช่น เขาอาจเลิกกันไป หรือเขาหนีตามกันไป หรือมัดได้รู้เห็นสัจจธรรมอะไรบางอย่างจึงมุ่งหน้าออกเดินทางด้วยเรือของเขาที่ซ่อมเสร็จไปหาโลกแห่งชีวิตในแบบใหม่ๆ ทิ้งผู้หญิงไร้ค่าคนนั้นไว้ให้อยู่แค่เพียงความทรงจำตลอดไป


Mean Creek ความตาย ลำธารมรณะ

หนังปี 2004 ,ผู้กำกับและเขียนบท จาค็อบ แอรอน อีสเตส ,นักแสดงนำ ลอรี่ คัลกิ้น(น้องชายของเจ้าหนูโฮมอโลน แม็คคัลลี่ คัลกิ้น, ไรอัน เคลลี่,สก็อต เมคโชวิค

เรื่องราวของเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งของมลรัฐโอเรกอน ที่ตัดสินใจวางแผนแก้เผ็ดอันธพาลประจำโรงเรียนของตนก็คือจอร์จ ด้วยรูปร่างที่เล็กกระทัดรัด อีกทั้งยังมีนิสัยที่ค่อนข้างจะเงียบขรึม และเก็บตัวจึงทำให้ แซม (โรรี่ คัลกิ้น) มักจะกลายเป็นกระสอบทรายเคลื่อนที่ให้กับเด็กอ้วนจอมอันธพาลเจ้าอารมณ์ จอร์จ (จอช เพ็ค) ใช้เป็นที่ซ้อมกำปั้นอยู่บ่อยๆ อยู่มาวันหนึ่งหลังจากที่ได้เห็นน้องชายกลับมาที่บ้านพร้อมกับรอยแผลฟกช้ำเหมือนเคย ร็อกกี้ (เทรเวอร์ มอร์แกน) พี่ชายของแซมก็ตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องสั่งสอนบทเรียนสำคัญให้กับจอร์จบ้าง ในขณะที่ตัวแซมเองกลับลังเลที่จะทำเช่นนั้น ท้ายที่สุดแซมก็ตกลงทำตามแผนที่วางเอาไว้ ตราบเท่าที่ร็อกกี้สัญญาว่า จะทำให้จอร์จแค่ได้รับความอับอาย โดยที่ไม่ได้เจ็บตัวแต่อย่างใด ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อนอีกสองคน คือ มาร์ตี้ (สก็อตต์ เมชโลวิคซ์) ผู้มักจะโดนเพื่อน ๆ ล้อเลียนอยู่เสมออันเนื่องมาจากการที่มีพ่อเป็นเกย์ และ ไคลด์ (ไรอัน เคลลี่) ซึ่งพ่อเพิ่งจะฆ่าตัวตายไปเมื่อไม่นานที่ผ่านมา ในที่สุดร็อกกี้ก็คิดแผนการที่สมบูรณ์แบบออกจนได้ ด้วยการจัดเที่ยวล่องเรือไปตามแม่น้ำสายเล็ก ๆ เพื่อที่จะลวงจอร์จไปทิ้งเอาไว้กลางทาง จากนั้นก็จัดการขโมยเสื้อผ้าของเขา แล้วจึงปล่อยให้เดินตัวเปล่าล่อนจ้อนกลับบ้านไปตามลำพัง การหลอกล่อให้เหยื่อมาร่วมเดินทางไม่ใช่เรื่องยาก และสิ่งที่แซมต้องทำก็มีเพียงแค่การแกล้งเดินไปขอสงบศึก แล้วชวนจอร์จให้มาร่วมงานเลี้ยงวันเกิด ซึ่งจอร์จก็ตอบตกลงในที่สุด พร้อมกันนั้นเขายังได้ชวน มิลลี่ (คาร์ลี่ ชโรเดอร์) เด็กสาวที่เขาแอบชอบให้มาร่วมล่องเรือในครั้งนี้ด้วย แล้วเรื่องที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อแซมกับร็อกกี้ค้นพบว่าแท้ที่จริงแล้วจอร์จไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร เพราะภายใต้เปลือกนอกที่หยาบกระด้างนั้น เขาเป็นเพียงแค่เด็กชายผู้อ่อนไหว ที่ต้องการจะคบใครสักคนเป็นเพื่อน และถ้าหากว่าเขามีรูปร่างที่บอบบางกว่านี้ เขาก็คงจะกลายเป็นฝ่ายถูกคนอื่นกลั่นแกล้งมากกว่าที่จะสวมบทเป็นอันธพาลเสียเอง แซมกับร็อกกี้ตกลงกันว่าจะยกเลิกแผนการเดิม ซึ่งก็ได้รับความเห็นชอบจากมิลลี่และไคลด์ ยกเว้นเพียงแค่มาร์ตี้ ซึ่งมักจะถูกพี่ชายตัวเองลงไม้ลงมืออยู่เป็นประจำ กลับต้องการที่จะลิ้มรสการแก้แค้นอันหอมหวาน และยืนยันที่จะทำทุกอย่างตามแผนเดิม

เหตุการณ์การล่องเรือนั้นเป็นไปตามแผนที่ได้วางไว้ จนเกิดเหตุพลิกผันที่ทำให้จอร์จต้องตกจากเรือ ซึ่งแน่นอนว่าเขาว่ายน้ำไม่เป็น และไม่มีใครสามารถช่วยเหลือชีวิตเขาได้ทัน กลายเป็นโศกนาฏกรรมที่ไม่มีใครคาดคิด ทุกคนต่างเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่สิ่งที่ยากยิ่งกว่านั้นก็คือ พวกเขาจะตัดสินใจแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างไรกัน จะยอมที่จะเอาความจริงไปบอกต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างตรงไปตรงมาหรือไม่ พร้อมกับยอมรับผิดร่วมกันในสิ่งที่ทุกคนมีส่วนร่วมกันก่อขึ้น แม้ว่าโดยเจตนาแล้วไม่มีใครที่จะประสงค์ให้เกิดเช่นนั้น เมื่อจอร์จเสียชีวิตไปแล้ว ในตอนแรกพวกเขาเลือกที่จะใช้วิธีฝังศพจอร์จเพื่อทำลายหลักฐานและทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่พวกเขาลืมคิดไปก็คือพี่ชายของจอร์จรับรู้ว่าพวกเขาชวนจอร์จไปเที่ยวล่องเรือกัน เพราะกลุ่มของพี่ชายจอร์จซึ่งเป็นคู่อริกับร็อคกี้ มาพบเจอพวกเขาในขณะที่แวะเติมน้ำมันและซื้อของในปั๊ม ทำให้รู้ว่าน้องตนไปกับกลุ่มเพื่อนและพี่น้องของแซม เรื่องที่จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นเกี่ยวกับการหายตัวไปของจอร์จจึงไม่ใช่เรื่องที่จะปกปิดได้ง่าย และตำรวจคงต้องตามมาสืบสวนอย่างแน่นอน แซมกับผองเพื่อนไปประชุมกันที่บ้านของไคลต์ แล้วตัดสินใจกันว่าจะนำความจริงไปแจ้งต่อครอบครัวของจอร์จให้รับทราบ และให้ตำรวจนำกำลังไปสืบค้นหาศพกันที่บริเวณที่เกิดเหตุ โดยมีแซมเป็นผู้เสียสละนำทางไปชี้เบาะแสด้วยตนเอง ในขณะที่ร็อคกี้เลือกที่จะไม่ยอมให้ความร่วมมือและบอกความจริง เขาเลือกที่จะทำตัวเป็นกบฏ อิสระและเข้าแก็งค์อันธพาล ลักวิ่งชิงปล้นตามอุปนิสัยแบดบอยต่อไป เมื่อตำรวจสืบสวนความจริงไปเรื่อยๆ ก็ไปสะดุดกับ vcd เทปที่จอร์จบันทึกเอาไว้เป็นการส่วนตัวก่อนตาย ซึ่งทำให้ตำรวจและคนดูถึงกับอึ้งกับความจริงที่ซุกซ่อนอยู่ และนี่อาจเป็นมูลเหตุจูงใจที่สำคัญก็ได้ที่ทำให้จอร์จเสียชีวิต และเรื่องก็จบตรงนี้ให้คนดูคาดเดาและวิเคราะห์ไปเองต่อ ซึ่งผู้เขียนไม่ขอเฉลยในส่วนนี้

บทวิเคราะห์วิจารณ์ภาพยนตร์ทั้ง 3 เรื่อง

เรื่องแรก Moonrise Kingdom ชอบมาก ทะเล้น น่ารัก แสบคัน เนี่ยแหละโลกฝันในแบบจินตนาการของเด็กๆ มัน ไม่ใช่เด็กแนว แหกคอก หรือกบฏอะไรทั้งสิ้น เพียงแต่ที่ผ่านมา เวลาสร้างหนังเด็กออกมา ผู้ใหญ่มักใส่ทัศนคติ มุมมองในแบบผู้ใหญ่เข้าไปหาเด็กๆ แต่เรื่องนี้ทำกลับกัน ลองคิดแล้วหามุมมองในแบบที่เด็กคิดจริงๆ แล้วทำออกมาให้เห็นเป็นภาพยนตร์ ผุ้กำกับฉลาดล้ำจริงๆ และกำกับภาพได้สวยงามมากด้วย นึกไปถึงตอนที่ได้ดู Royal Tenenbaums (2001) และ Amelie (2001) เช่นกัน ภาพสวย เนื้อหาไม่รู้เรื่อง แต่ก็ทนดูจนจบได้ แต่เรื่องนี้นั้น พล็อตและประเด็นเนื้อหาดีมากๆ เข้าใจไม่ยากเลย ดูแล้วรักไอ้เด็กแซมคนนี้มากเลย มันคิดยังไง มันก็แสดงออกมาแบบนั้น นี่แหละเด็ก ที่ไม่เสแสร้งแกล้งทำแบบผู้ใหญ่ ชื่อหนังมันก็สื่อตรงๆ ให้เข้าใจแล้วว่า อาณาจักรแห่งแสงจรัส มันคือโลกของเด็ก โลกของคนมีปัญญา ถ้าประเทศชาติเรามีเด็กที่ฉลาดแบบนี้เยอะๆ นะ ไม่ใช่ฉลาดแกมโกง หรือต้องมาคอยรณรงค์กันว่า โตไปไม่โกง อะไรเทือกนี้นะ ประเทศมันจะเอาอะไรไปแข่งกับมวลมหาประชาชนของโลกเขาได้ ประเทศไหนมันจะเจริญอย่างไรนั้น ให้ไปดูที่เด็กของประเทศนั้นเลยว่ามันกิน อยู่ เที่ยว อ่าน เล่น กันอย่างไร นั่นแหละ และเรื่องนี้นะเป็นหนังที่พูดถึงยุคสมัยปี 1960's นู่นแหน่ะ ทำไมเด็กมันถึงได้ฉลาดเช่นนี้หนอ แล้วมาดูเด็กไทย พ.ศ.นี้สิ กินอะไร-กินฟาสต์ฟู้ด, อยู่อะไร-อยู่หอกับเพื่อน ไม่กลับบ้าน,เที่ยวอะไร-เที่ยวผับ คาราโอเกะ,อ่านอะไร-อ่านนิยาย กอสซิปดารา,เล่นอะไร-เล่นเกมส์ สมาร์ทโฟน บลาบลาบลา นอนหลับฝันดีประเทศไทย

ให้เครดิตผู้กำกับเขาหน่อย Wes Anderson เกิด May 1, 1969 ที่ฮุสตัน เท็กซัส, จบการศึกษา ม.เท็กซัสที่ออสติน
ผลงานการกำกับ ตั้งแต่ปี 1996 Bottle Rocket,1998 Rushmore, 2001 The Royal Tenenbaums ,2004 The Life Aquatic with Steve Zissou, 2007 The Darjeeling Limited ,2009  Fantastic Mr.Fox , 2012  Moonrise Kingdom , 2014 The Grand Budapest Hotel   จะสังเกตเห็นว่า หนังของพี่แกจะออกแนวๆ ทั้งนั้นเลย


เรื่องที่ 2  MUD ตอนแรกไม่รู้เลยจริงๆ ว่าหนังจะเป็นแนวนี้ คือดูไม่ออกว่าเนื้อหาจะเป็นอย่างไร ชื่อ Mud สั้นๆ ไม่ได้บ่งบอกอะไรเลย เข้าใจว่าเป็นมัดกล้ามของพี่แม็คคอนนาเฮย์เสียอีก (ในเรื่องแกก็มีโชว์กล้ามอยู่บ้างเหมือนกัน แต่ไม่ใช่สาระ)  แต่พอดูๆ ไปถึงได้รู้ว่าแก่นของเรื่องมันอยู่ที่เด็ก 2 คนนั้น ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่มัดซักเท่าไหร่ เอาแกมาเป็นจุดขายซะงั้น หน้ายับๆ และพุงหลามๆ ไม่ต้องการดูเสียหน่อย แต่ประเด็นสอนใจมันอยู่ทีไอ้เด็ก เอลลิส และเนคโบน 2 คนนี้ต่างหาก ดูๆ ไปคุณอาจมีร้องไห้ได้นะ ถ้าในวัยเด็กคุณมีปมคล้ายๆ ไอ้เด็ก 2 คนนี้มัน ผู้เขียนเชื่อแล้วหล่ะว่าเลี้ยงเด็กแบบฝรั่งมันดีกว่าเลี้ยงแบบเด็กเอเซียยังไง ให้เจอ ให้ลอง ให้เผชิญของจริง (ในสิ่งที่ดีๆ นะ) ไปเลย เวลาโตไปจะได้แกร่ง เป็นผู้ใหญ่ที่ช่วยเหลือคนอื่น หรือสังคมได้ ไม่ไปเป็นภาระของสังคม เข้าใจชีวิต ถามว่าแล้วมันจะไม่แลกด้วยความเจ็บปวดเหรอ เอ้า..โลกนี้มันไม่ใช่โลกสวยเหมือนใครบางคนนี่ครับ มันเป็นโลกที่โหดร้ายมาก และนับวันยิ่งทวีความโหดร้ายขึ้นทุกที คุณยังจะเลี้ยงลูกแบบสปอยด์ เอาใจเป็นฮ่องเต้อยู่ก็คงจะเจริญหล่ะนะ คุณชายเอ๋ย  ผู้เขียนบทก็คือคนเดียวกับผู้กำกับ ฉลาดมาก เลือกที่จะใช้เด็ก 2 คน ที่จริงๆ แล้วไม่ได้มีนิสัยเหมือนกันเท่าไหร่ คนนึงละเอียดอ่อน อีกคนหนึ่งมองโลกในแง่ดี แต่รับรองว่่า 2 คนนี้โตไปไม่โกงแน่ เพราะในเรื่องพ่อแม่มันสอนเสียดิบดี ชอบตรงนี้จัง พอลูกผ่านประสบการณ์อันเลวร้ายมา ก็ปลอบให้กำลังใจและให้อภัยลูก ไม่ใช่ด่าซ้ำแบบพ่อแม่คนไทย ตายสิ ลูกพ่อแม่ไม่รัก และไม่สั่งสอน โตไปก็จะต้องคอยมานั่งตอบว่า เรื่องนี้ถามแม่แล้ว แม่บอกว่าดี ให้ทำ จังไรมั๊ยไอ้ลูกคนนี้

ให้เครดิตผู้กำกับเขาหน่อย Jeff Nichols  เกิด December 7,1978 ที่ลิตเติลร็อค อาคันซอส์ จบการศึกษา เรียนภาพยนตร์ที่ ม.นอร์ทคาโรไลน่า สคูลออฟอาร์ทส์ เพิ่งจะมีผลงานภาพยนตร์ไม่กี่เรื่องเท่านั้น แต่เป็นผู้กำกับที่น่าจับตามองในอนาคตคนหนึ่ง
ผลงานการกำกับ 2007 Shotgun Stories , 2011 Take Shelter , 2012  Mud , 2014 Midnight Special


เรื่องที่ 3  Mean Creek  ดูจากหน้าหนังหรือโปสเตอร์แล้วมาทาง Stand By Me เลย ตัวหนังยังได้รับการคัดเลือกให้ไปฉายในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ที่ฝรั่งเศส และเทศกาลภาพยนตร์ซันแดนซ์ ที่อเมริกาอีกด้วย พล็อตเรื่องก็ไม่มีอะไรใหม่เลย เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับกลุ่มเด็กที่คิดจะแกล้งกันและแก้เผ็ดกันจนเลยเถิดกลายเป็นโศกนาฏกรรม เรื่องราวแบบนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่บนโลกแห่งนี้ เพียงแต่ว่าเรื่องมันเกิดที่ใด เกิดอย่างไร และมันเกิดขึ้นได้อย่างไร อะไรทำให้มันเกิด นี่แหละคือประเด็นที่หนังต้องการนำเสนอ เรื่องแบบนี้มันยังคงทันสมัยอยู่ เพราะมันเล่นกับอารมณ์ของคน เสี้ยววินาทีแห่งอารมณ์ชั่ววูบของคนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมขึ้นมาแล้วนับไม่ถ้วนทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต มันจึงถูกนำมาสร้างเสมอๆ ซ้ำๆ เพื่อเตือนสติคนให้คิดก่อนทำ หรือตัดสินใจทำอะไรลงไป เพราะมันคือ ทฤษฏีบัตเตอร์ฟลายเอ็ฟเฟ็คท์ หรือ เด็ดดอกไม้สะเทือนถึงดวงดาวได้เหมือนกัน อะไรในโลกนี้ ทำสิ่งหนึ่งมักกระทบไปถึงอีกสิ่งหนึ่งเสมอ และถ้าสิ่งๆ นั้นมันคือสิ่งมีชีวิตที่มีชีวิตจิตใจหรือลมหายใจแล้วหล่ะก็ ความเศร้าโศกเสียใจจะตามมามหาศาล ผู้เขียนดูเรื่องนี้แล้วเสพข่าวการเสียชีวิตของน้องวสุ สุฉันทบุตรไปด้วย น้ำตามันก็ไหลออกมา เสียใจแทนครอบครัวของเขาด้วย แต่ก็ภูมิใจในความหาญกล้าและความดีของน้องเขาและครอบครัวเขาจริงๆ ผู้เขียนดูเรื่องนี้ไปพร้อมๆ กับดูเหตุการณ์ที่ดินแดง แล้ววิเคราะห์เปรียบเทียบกันไป ช่างสะเทือนใจยิ่งนัก เพราะว่ามันคือคนละเรื่องเดียวกัน มูลเหตุจูงใจคล้ายกันมาก สมกับชื่อเรื่องเลย Mean Creek ขอไว้อาลัยให้กับการสูญเสียในครั้งนี้

ให้เครดิตผู้กำกับเขาหน่อยครับ Jacob Aaron Estes เกิด September 6,1972  ที่ทูลาเร่ คันทรี แคลิฟอร์เนีย จบการศึกษา -
ผลงานการกำกับ  2001 หนังสั้นเรื่อง Summoning ,2004 Mean Creek , 2011 Nearing Grace , 2012 The Details      

    
หนังในแนว Coming of Age  อาทิ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น