วันจันทร์ที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557

โลก 360 องศา - (ภัยหนาวในสหรัฐ,การเมืองเล่นแรงที่บังคลาเทศและกัมพูชา,ระเบิดพลีชีพที่รัสเซีย)

 
รอบรั้วรอบโลก - ชาวอเมริกันกว่าครึ่งประเทศกำลังเผชิญกับสภาพอากาศที่หนาวจัดและหิมะตกหนัก จากอิทธิพลของมวลอากาศเย็นจากขั้วโลกเหนือ ที่แผ่ปกคลุมหลายรัฐทางตอนกลางตะวันออกเฉียงเหนือ และตอนใต้ของประเทศ โดยรัฐบาลได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแล้วในบางรัฐ รวมถึงในนคร"นิวยอร์ก"และ"ชิคาโก" พร้อมเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการออกจากบ้าน หลังกรมอุตุนิยมวิทยารายงานว่า สถานการณ์จะทวีความรุนแรงขึ้นอีกในวันนี้ โดยอุณหภูมิอาจลดต่ำถึงติดลบ 51 องศาเซลเซียส หรือต่ำสุดในรอบ 20 ปี ท่ามกลางหิมะที่ทับถมหนาถึง 60 เซนติเมตร ลมกระโชกแรง พายุหิมะและน้ำท่วมอีกด้วยในบางพื้นที่ ภัยหนาวครั้งนี้ส่งผลให้มีการยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออก รวมเกือบ 4,000 เที่ยว ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินโดยสารจากแคนาดา ลื่นไถลตกรันเวย์ที่สนามบินในนคร"นิวยอร์ก" รวมถึงเครื่องบินส่วนตัวตกกระแทกรันเวย์ในรัฐ"โคโลราโด" ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน บาดเจ็บอีก 2 คน ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตจากภัยอากาศหนาวครั้งนี้ได้เพิ่มเป็น 16 คนแล้ว ส่วนที่แคนาดา หลายพื้นที่กำลังเผชิญกับอากาศหนาวจัดเช่นกัน ส่งผลให้อุณหภูมิลดต่ำถึงติดลบ 38 องศาเซลเซียส ถือว่าต่ำสุดในรอบ 20 ปีเช่นกัน นอกจากนี้ประชาชนหลายพันคนในรัฐ"นิวฟันด์แลนด์" ยังไม่มีไฟฟ้าใช้อีกด้วย หลังหิมะที่ตกหนักได้ทำให้หม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด


รอบรั้วรอบโลก - การประท้วงต่อต้านการเลือกตั้งในหลายพื้นที่ของบังกลาเทศวานนี้ ทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังกำลังตำรวจได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่กลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อความรุนแรง และเผาทำลายคูหาลงคะแนนไปมากกว่า 200 จุด ซึ่งล่าสุดพบว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 18 คน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้ประท้วง ขณะที่ทางการบังกลาเทศระบุว่ากลุ่มผู้ประท้วงได้ใช้อาวุธ เช่นระเบิดเพลิงโจมตีตำรวจและยังพยายามขโมยอาวุธปืน ทำให้ตำรวจต้องใช้ปืนยิงตอบโต้ ทั้งนี้ แม้ว่าจะมีหน่วยลงคะแนนกว่า 380 จุด จาก 18,000 จุดทั่วประเทศที่ต้องยกเลิกการเปิดรับลงคะแนน แต่เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านได้คว่ำบาตรการ เลือกตั้งครั้งนี้ ทำให้ค่อนข้างชัดเจนว่าพรรครัฐบาลจะเป็นฝ่ายชนะการเลือกตั้งอย่างง่ายดาย ขณะที่คณะกรรมการเลือกตั้งของบังกลาเทศยอมรับว่ามีผู้มาใช้สิทธิ์ลงคะแนนค่อนข้างน้อย

 
สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 6 ม.ค.ว่า ตำรวจกัมพูชา ยอมปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวหญิง 5 คน ที่ถูกจับกุมตัวเมื่อเช้าวันนี้ หลังจากพยายามยื่นหนังสือร้องเรียนต่อสถานทูตฝรั่งเศส เพื่อขอให้ช่วยปล่อยตัวผู้ประท้วงที่ต่อต้านรัฐบาล ซึ่งถูกจับกุมตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยผู้หญิงทั้ง 5 คน ถูกตำรวจนอกเครื่องแบบรวบตัว ขณะเดินทางไปยังสถานทูตฝรั่งเศส จากการเปิดเผยของกลุ่มสิทธิมนุษยชนท้องถิ่น “ลีชาโด” และครอบครัวของหนึ่งในกลุ่มผู้หญิงที่ถูกจับ เจ้าหน้าที่ตำรวจปล่อยตัวนักเคลื่อนไหวหญิงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หลังจากพวกเธอได้ลงนามในเอกสารฉบับหนึ่ง ระบุว่า พวกเธอจะไม่ยุยงส่งเสริมให้มีการประท้วง หรือเข้าร่วมในการประท้วงอีก ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวหญิง กำลังขอให้ปล่อยตัวประชาชน 23 คน ที่ถูกจับกุมตัวไประหว่างเข้าร่วมการประท้วงกับกลุ่มแรงงานและทางการเมือง เจ้าหน้าที่ตำรวจยิงผู้ประท้วงแรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเสียชีวิตไปอย่างน้อย 4 คนเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และผู้นำฝ่ายค้านถูกศาลเรียกตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหายั่วยุปลุกปั่นให้สังคมเกิดความวุ่นวาย



เหตุการณ์ลอบวางระเบิดครั้งนี้เกิดขึ้นห่างเพียงวันเดียว หลังมือระเบิดพลีชีพซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผู้หญิง จุดชนวนระเบิดหน้าสถานีรถไฟหลักในเมืองโวลโกการ์ด ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 17 ศพ และได้รับบาดเจ็บอีกกว่า 30 คน ก่อให้เกิดความหวั่นวิตกว่ากลุ่มติดอาวุธจะเพิ่มปฏิบัติการลงมือในช่วงที่รัสเซียเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวปีหน้า ในเมืองโซชิ โดยการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 7 ก.พ. หลังเกิดเหตุ รัฐบาลรัสเซียสั่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามบิน สถานีรถไฟทั้งบนดินและใต้ดิน รวมถึงป้ายรถประจำทางทุกแห่งทั่วประเทศ ขณะที่พนักงานสืบสวนสันนิษฐานในเบื้องต้นว่าเป็นฝีมือของ "กลุ่มก่อการร้าย" แต่จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีผู้ใดออกมาแสดงความรับผิดชอบว่าอยู่เบื้องหลังการก่อเหตุวินาศกรรมดังกล่าว ขณะที่สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นรายงานว่า หลังเกิดเหตุระเบิดขึ้น 2 ครั้งใน 2 วัน ชาวเมืองโวลโกการ์ดต่างตกอยู่ในอาการหวั่นวิตก และพากันเลิกใช้บริการรถโดยสารประจำทาง รวมทั้งรถราง แล้วเปลี่ยนมาเดินทางสัญจรไปมาด้วยวิธีเดินเท้าแทน นอกจากนี้ สำนักข่าวอาร์ไอเอ โนวอสติ รายงานว่า มีข่าวลือเเพร่กระจายในสื่อสังคมออนไลน์ว่าเกิดเหตุระเบิดในเมืองเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งทางการยืนยันว่ากระแสข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ทั้งนี้ เมืองโวลโกการ์ดมีประชากรประมาณ 1 ล้านคน อยู่ห่างจากเมืองโซชิประมาณ 690 กม. และอยู่ติดกับแคว้นนอร์ธคอเคซัส ที่มีชุมชนชาวมุสลิมอยู่อาศัยและมักเกิดเหตุรุนแรงรายวัน เมืองวอลโกกราดของรัสเซีย ถูกระเบิดโจมตีเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 2 วัน โดยพุ่งเป้าไปยังรถโดยสารประจำทาง มีผู้เสียชีวิตแล้ว 15 คน ขณะที่ทางการรัสเซีย ระบุว่า ระเบิดทั้ง 2 ครั้ง เป็นการก่อการร้ายและอาจเชื่อมโยงกัน เหตุระเบิดครั้งล่าสุด เกิดขึ้นบนรถโดยสารประจำทางในเมืองวอลโกกราด ทางภาคใต้ของรัสเซีย ขณะรถโดยสารคันนี้ กำลังแล่นผ่านตลาดในช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งถือเป็นชั่วโมงเร่งด่วนและมีประชาชนพลุกพล่าน แรงระเบิดทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน และบาดเจ็บอีก 23 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นเด็กทารกวัย 1 ปี ภายหลังเหตุระเบิด ชาวเมืองวอลโกกราดส่วนใหญ่ ตัดสินใจที่เดินเท้าแทนการใช้บริการระบบขนส่งมวลชน เพราะเกรงว่าอาจเกิดเหตุระเบิดซ้ำอีก หลังจากที่เมื่อวานนี้ เกิดเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่ประตูทางเข้าของสถานีรถไฟเมืองวอลโก-กราด จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 17 คน และบาดเจ็บเกือบ 50 คน ทางการรัสเซีย ระบุว่า เหตุระเบิดในเมืองวอลโกกราดทั้ง 2 ครั้ง เป็นการก่อการร้าย และอาจเชื่อมโยงกัน แต่ยังไม่ทราบว่ากลุ่มใดเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ขณะเดียวกัน ก็ได้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย บริเวณสถานีรถไฟและสนามบินทั่วประเทศ เหตุระเบิดที่เมืองวอลโกกราดทั้ง 2 ครั้ง เกิดขึ้นก่อนที่รัสเซียจะเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิคฤดูหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า โดยเมืองที่เกิดระเบิด ห่างจากเมืองโซชิ สถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 650 กิโลเมตร และห่างจากกรุงมอสโควไปทางใต้ราว 900 กิโลเมตร ทั้งนี้ เหตุระเบิดหลายครั้ง เกิดขึ้นหลังหัวหน้ากลุ่มกบฏชาวเชเชน ออกมาเรียกร้องให้มีการโจมตีโดยพุ่งเป้าไปที่ชาวรัสเซียตั้งแต่เดือนกรกฎาคม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น