ประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่1/2557 เรื่อง การควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ
ตามสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เขตปริมณฑล และพื้นที่ต่างๆ ของประเทศหลายๆ พื้นที่ เป็นผล
ใหประชาชนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บ และเกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ดังกล่าวมีแนวโน้ม
ขยายตัว จนอาจเกิดเหตุการณ์ร้ายแรงที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติ และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนโดยรวมนั้นเพื่อให้สถานการณ์ดังกล่าวกลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว ประชาชนในชาติเกิดความรัก ความสามัคคี เช่นเดียวกับห้วงที่ผ่านมา ตลอดจนเพื่อเป็นการปฏิรูปโครงสร้างทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และอื่นๆ เพื่อให้เกิดความชอบธรรมกับทั่วทุกฝ่าย คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพเรือ กองทัพอากาศ
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จึงมีความจำเป็นต้องเข้าควบคุมอำนาจในการปกครองประเทศ ตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2557 เวลา 16.30 น. เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนทุกคนอยู่ในความสงบ ดำเนินวิถีชีวิต และประกอบอาชีพต่อไปตามปกติ ให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง กรม ปฏิบัติหน้าที่ตามระเบียบแบบแผนของทางราชการดังที่เคยปฏิบัติ สำหรับข้าราชการทหาร ตำรวจ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ส่วนราชการต่างๆ ที่มีอาวุธเพื่อใช้ในราชการของหน่วย ห้ามเคลื่อนย้ายกำลังและอาวุธโดยเด็ดขาด เว้นแต่จะได้รับคำสั่งจากหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ แต่เพียงผู้เดียวสำหรับคณะทูตานุทูต สถานกงสุล องค์กรระหว่างประเทศ รวมทั้งชาวต่างประเทศที่พำนักอาศัยอยู่ในราชอาณาจักรไทย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจะได้ให้ความคุ้มครอง และขอยืนยันว่า ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รวมทั้งความสัมพันธ์ระหว่างราชอาณาจักรไทย กับองค์กรระหว่างประเทศต่างๆ ยังเป็นไปตามปกติ ตามที่รัฐบาลชุดเดิมดำเนินการไว้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ จะยึดมั่นในความจงรักภักดี และจะปกป้องเทิดทูนดำรงรักษาไว้ ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจประชาชนชาวไทย และทรงอยู่เหนือความขัดแย้งทั้งปวง
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. ฉบับที่ 2/2557
เรื่อง การประกาศใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 3/2557
เรื่อง ห้ามออกนอกเคหสถาน ตั้งแต่เวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น. ยกเว้นผู้ปฏิบัติงาน หน้าที่ หรือบางอาชีพที่มีความจำเป็นต้องออกปฏิบัติงานในเวลานั้น
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 4/2557
เรื่อง การถ่ายทอดออกอากาศของสถานีวิทยุกระจายเสียง สถานีวิทยุโทรทัศน์ และสถานีวิทยุชุมชน (งดรายการปกติ และดึงสัญญาณการถ่ายทอดเสียงจากสถานีแม่ข่ายกองทัพบก คำสั่งหรือประกาศจาก คสช.เมื่อมีการแถลงหรือประกาศ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 5/2557
เรื่อง การสิ้นสุดชั่วคราวของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ให้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 สิ้นสุดลงชั่วคราว บางส่วน ยกเว้นหมวด 2 พระมหากษัตริย์,ให้คณะรัฐมนตรีทั้งคณะสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่,ให้วุฒิสภา ศาล และองค์กรอิสระ ยังคงทำหน้าที่ได้ตามปกติ)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 6/2557
เรื่อง แต่งตั้งผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญในคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (ก็คือแต่งตั้ง พล.อ.ประยุทธ์ เป็น หน.คณะ และผู้นำเหล่าทัพอื่นๆ เป็นรองหัวหน้าคณะ ตามลำดับ)
คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 1/2557
เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัว (ก็คือให้ รมต.ที่เหลือรอดจำนวน 18 คน ตั้งแต่นิวัฒน์ธำรง ให้มารายงานตัวต่อ หน.คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในวันที่ 22 พ.ค.2557)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 7/2557
เรื่อง ห้ามชุมนุมทางการเมือง (ให้กลุ่มผู้ชุมนุมทั้ง 2 ฝ่าย สลายการชุมนุมและเดินทางกลับ โดยมีรถประจำทางของ ขสมก.รถทัวร์มาอำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับ จากนั้นกองกำลังทหารได้ตรึงกำลังบริเวณ ถนนราชดำเนินและถนนอักษะ เพื่อเคลียร์พื้นที่)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 8/2557
เรื่อง ข้อยกเว้นการห้ามออกนอกเคหสถาน (มีรายละเอียดออกมาว่ายกเว้นกลุ่มคนใดบ้าง อาทิ ผู้เดินทางเข้าออกประเทศ ,ผู้ที่ต้องทำงานเป็นผลัดเป็นกะ อาทิ คนงานโรงงาน,โรงพยาบาล,ธุรกิจการบิน ,ธุรกิจขนส่งสินค้า,ผู้ปวยที่ต้องเดินทางไปรักษาตัวด่วนใน รพ. กลุ่มคนเหล่านี้ยกเว้นสามารถออกจากเคหสถานได้ในเวลาที่สั่งห้าม แต่ต้องขออนุญาติเจ้าหน้าที่ทหารที่ดูแลรักษาพื้นที่เหล่านั้นเสียก่อน)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 9/2557
เรื่อง ให้สถานศึกษาหยุดทำการ (ให้หยุดทุกแห่ง ทั้งของรัฐและเอกชน ให้หยุดทำการเรียนการสอนในวันที่ 23-25 พ.ค2557)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 10/2557
เรื่อง ให้อำนาจหน้าที่ของนายกรัฐมนตรี เป็นอำนาจหน้าที่ของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 11/2557
เรื่อง การสิ้นสุดของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
เพื่อความสงบเรียบร้อยในการปกครองประเทศจึงให้ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 5/2557 ลงวันที่ 22 เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช 2557 เรื่อง การสิ้นสุดชั่วคราวของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และให้ใช้ข้อความตามประกาศฉบับนี้
1. รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2550 สิ้นสุดลง ยกเว้นหมวด 2
2. คณะรัฐมนตรีรักษาการสิ้นสุดลง
3. วุฒิสภา ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามจำนวนสมาชิกวุฒิสภาที่มีอยู่ ณ วันที่ประกาศฉบับนี้มีผลบังคับใช้
4 ศาลทั้งหลายคงมีอำนาจดำเนินการพิจารณาและพิพากษาอรรถคดีตามบทกฎหมายและประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
5. องค์กรอิสระ และองค์กรอื่น ตามรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช 2550 ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 12/2557
เรื่อง ขอความร่วมมือจากสื่อสังคมออนไลน์ (ไม่ให้เผยแพร่ข่าวสารที่ไม่มีข้อเท็จจริง บิดเบือน ปลุกระดม ยั่วยุ ใช้ถ้อยคำที่รุนแรง ต่างๆ)
คำสั่ง คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 2/2557
เรื่อง ให้บุคคลมารายงานตัวเพิ่มเติม และแก้ไขวันเวลาและสถานที่ให้มารายงานตัว (จำนวน 23 คน ส่วนใหญ่เป็นรายชื่อในวงษ์วานว่านเครือของคุณทักษิณ ชินวัตร ได้แก่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร สมชาย วงษ์สวัสดิ์ เยาวภา วงษ์สวัสดิ์ ฯลฯ)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 13/2557
เรื่อง ขอให้บุคคลสำคัญมารายงานตัว (ให้ หน.หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ นับตั้งแต่ระดับปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัด มารายงานตัว ถ้าเป็นส่วนกลาง มารายงานตัวที่ สโมสรกองทัพบก ถ้าเป็นส่วนภูมิภาค ให้ไปรายงานตัวที่กองทัพภาคต่างๆ )
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 14/2557
เรื่อง ห้ามสร้างความขัดแย้งหรือต่อต้านการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 15/2557
เรื่อง ขอให้ระงับการถ่ายทอดออกอากาศของสถานีโทรทัศน์ดาวเทียม เคเบิล โทรทัศน์ระบบดิติตอล และสถานีวิทยุชุมชน (ก็คือรายชื่อสถานีโทรทัศน์ดาวเทียมที่ถูกแบล็กลิสต์ให้งดออกอากาศรวม 14 สถานี ทั้งฝั่งเหลืองฝั่งแดง และรวมถึงวิทยุชุมชนต่างๆ ด้วยที่อยู่ในข่ายปลุกระดม และไม่ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งสถานีวิทยุ)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 16/2557
เรื่อง ให้ปลัดกระทรวงปฏิบัติราชการแทนรัฐมนตรีเป็นการชั่วคราว
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 17/2557
เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางอินเทอร์เน็ต (เพิ่มเติมจากฉบับที่ 12 โดยให้มีการติดตาม ตรวจสอบ ระงับยับยั้ง ข้อความที่เข้าข่ายข้อห้ามเหล่านั้น และให้ผู้ประกอบการด้านอินเตอร์เน็ตทุกรายมารายงานตัวด้วย)
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 18/2557
เรื่อง การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณะ
เพื่อให้การเผยแพร่ข่าวสารไปสู่ประชาชนเป็นไปด้วยความถูกต้อง ปราศจากการบิดเบือน อันจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด จนส่งผลกระทบต่อการรักษาความสงบเรียบร้อย คณะรักษาความสงบแห่งชาติจึงให้ผู้ประกอบกิจการและผู้ให้บริการด้านสื่อมวลชนทุกประเภท ทั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงทุกสถานี ทั้งที่เป็นของราชการและเอกชน สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดิน สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม เคเบิล โทรทัศน์ระบบดิจิตอล และโทรทัศน์อินเตอร์เน็ตทุกสถานี หนังสือพิมพ์ วารสาร หรือสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ รวมทั้งผู้ให้บริการด้านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท อันรวมถึงการสื่อสารทางสังคมสื่อออนไลน์ งดเว้นการนำเสนอข้อมูลข่าวสารในลักษณะ ดังต่อไปนี้
1.ข้อความอันเป็นเท็จ หรือส่อไปในทางหมิ่นประมาท หรือสร้างความเกลียดชังต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ องค์รัชทายาท และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์
2. ข่าวสารที่จะเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ รวมทั้งหมิ่นประมาทบุคคลอื่น
3. การวิพากษ์ วิจารณ์ การปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เจ้าหน้าที่ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และบุคคลที่เกี่ยวข้อง
4. ข้อมูลเสียง ภาพ วีดีทัศน์ ความลับของการปฏิบัติงานของหน่วยราชการต่างๆ
5. ข้อมูลข่าวสารที่ส่อให้เกิดความสับสน ยั่วยุ ปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง หรือสร้างให้เกิดความแตกแยกในราชอาณาจักร
6. การชักชวน ซ่องสุม ให้มีการรวมกลุ่มก่อการอันเกิดการต่อต้านเจ้าหน้าที่และบุคคลที่เกี่ยวข้องของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
7. การขู่จะประทุษร้ายหรือทำร้ายบุคคล อันนำไปสู่ความตื่นตระหนก หวาดกลัวแก่ประชาชน
สื่อดังกล่าวข้างต้นมีหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารตามที่ได้รับแจ้งจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 22 พฤษภาคม พุทธศักราช 2557
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
ประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 19/2557
เรื่อง ให้บุคคลสำคัญมารายงานตัวเพิ่มเติม (นอกเหนือจากที่ได้ระบุในฉบับอื่นๆ ก่อนหน้านี้)
อาจมีประกาศฉบับอื่นๆ ตามมาอีก ทางบล็อกขอรวบรวมมาเท่านี้ ที่เหลือที่จะประกาศตามมาอีก นอกจากนี้ ขอให้ผู้อ่านได้ติดตามหาข้อมูลได้จากช่องทางข่าวสารของราชการ หรือสถานีโทรทัศน์ วิทยุ สื่ออินเตอร์เน็ตทุกประเภท ทุกแหล่งตามแต่สะดวก