ได้แก่เต๋า เศรษฐพงศ์ พอเพียง
จากผลงานละคร Mister Merman แฟนฉันเป็นเงือก ,เกมเสน่หา ,ยุทธการปราบนางมาร ,ซิทคอมสุภาพบุรุษสุดซอย , Kiss
Me Again จูบให้ได้ถ้านายแน่ ,Beauty
Boy ผู้ชายขายสวย ,Club Friday The Stories 10 รักนอกใจ ,Teen Time 28 The Series : Way Back Home สังกัด อิสระ
งานออสการ์ครั้งที่ 91 ในปีนี้
เป็นการรวบรวมผลงานที่ออกฉายในปี 2018 จะจัดงานกันขึ้นที่
ดอลบี้เธียเตอร์ ฮอลลีวู้ดสตรีท ลอสแอนเจลิส มลรัฐแคลิฟอร์เนียเช่นเคย
ถ่ายทอดโดยสถานีโทรทัศน์ ABC ของสหรัฐ โดยพิธีกรผู้ดำเนินรายการในปีนี้อุบไว้
ไม่ทราบว่าเป็นใคร แต่ได้แรงบันดาลใจจาก ออสการ์ปี 1989 ที่ Rob
lowe อดีตนักแสดงชายที่รุ่งเรืองในยุค 80’s ออกมาร้องเพลงคู่กับสโนว์ไวท์มีภาพยนตร์ที่ถูกเสนอชื่อเข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้ 8 เรื่อง มีภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงรางวัลมากที่สุดในปีนี้ จำนวน 10 สาขาถึง 2 เรื่อง ก็คือ The Favourite กับ Roma รองลงมาคือ A Star is Born และ Vice ได้เข้าชิงจำนวน 8 สาขาเท่ากัน อันดับ 3 คือ Black Panther เข้าชิง 7 สาขารางวัล และสุดท้ายเรื่อง BlacKkKlansman ได้เข้าชิง
6 รางวัล นอกนั้นก็ลดหลั่นกันลงไป
ภาพยนตร์ที่เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนี้มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป
แต่จุดร่วมของหนังที่ได้เข้าชิงสาขาหนังเยี่ยมในปีนี้อย่าง Roma เป็นภาพยนตร์ที่ออกฉายทาง Netflix จึงเป็นปีแรกที่หนังจาก
Netflix ได้เข้าชิงในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของออสการ์ ในปีนี้หนังที่เล่นประเด็นเรื่องเพศและการเหยียดผิวหรือกดขี่
(Black Panther,Bohemian Rhapsody,Green Book,If Beale Street Could Talk) ยังคงมีอีกแล้วในกรณีของ BlacKkKlansman
กลายเป็นหนังเสียดสีแสบทรวงที่มักมีแทรกมาทุกปี ปีละเรื่อง
ที่มีตัวละครหลักเป็นคนผิวสีแฝงตัวเข้าไปในกลุ่มคนยิวผิวขาว ซึ่งแค่พล็อตเรื่องก็น่าสนใจแล้ว
และยังมีผู้อำนวยการสร้างเป็นคนเดียวกับที่เขียนบทและกำกับเรื่อง Get Out ยิ่งทำให้รู้สึกว่าหนังเรื่องนี้จะเป็นขวัญใจนักวิจารณ์อย่างแน่นอน ด้าน Black Panther เป็นหนังแนวซุปเปอร์ฮีโร่จากค่ายมาร์เวล
ที่แหกโผมาเข้าชิงหนังเยี่ยมได้อย่างไร ถ้าไม่ได้อานิสงส์กระแสการชาบูคนผิวสีในช่วงนี้หนักมากอีกประเด็นหนึ่งที่ออสการ์มักให้ความสำคัญคือหนังแนวอัตชีวประวัติบุคคลสำคัญทั้งทางการเมืองหรือปูชนียบุคคลด้านต่างๆ
(Vice ,The Favourite, Bohemian Rhapsody) อีกแนวนึงที่ออสการ์ชอบมากในช่วงหลังๆ
ก็คือ งานด้านกำกับภาพหรือโชว์องค์ประกอบศิลป์ (The Favourite,Green
Book ,Roma) งานด้านภาพวิชวลกราฟฟิกที่เจ๋งจริงๆ ปีนี้
ไม่มีเรื่องใดได้เข้าชิง
ในบรรดาหนังที่เข้าชิงในปีนี้ที่โดดเด่นด้านการแสดงมากๆ
ก็ได้แก่ ฝ่ายชายเป็นการสู้กันระหว่าง Christian
Bale จาก Vice และ Rami
Malek จาก Bohemian Rhapsody เพียง
2 คนเท่านั้นจริงๆ แต่นอกเหนือจากนี้ที่พอจะเป็นตัวสอดแทรกได้
ยังมี Viggo Mortensen จากเรื่อง Green
Book ด้วยแต่ความโดดเด่นของเรื่องนี้กลับไปตกที่บทสมทบชายที่เด่นกว่า
(Mahershala Ali ซึ่งรับบทเป็น Don Shirley นายจ้างของ Viggo อีกที) ซึ่งกำลังเป็นกระแสในอเมริกา
ประเด็นการเหยียดผิวที่เป็นที่พูดดึงไปทุกวงการ
ทั้งวงการการเมือง,กีฬา,บันเทิงนักแสดง ไปจนถึงประเด็นประท้วงในช่วงปีหลังๆ
ที่ต้องการให้คนผิวสี ได้มีบทบาททางสังคมที่เท่าเทียมกับคนผิวขาวบ้าง) ส่วนฝ่ายหญิงเป็นการสู้กันที่สูสีหลายคนระหว่าง Olivia
Colman จาก The Favourite ,Lady Gaga จาก A Star is Born ,Yalitza Aparicio จาก Roma และ Glenn Close จาก The Wife แต่รายหลังไม่ได้เข้าชิงในสาขาหนังเยี่ยม
ในปีนี้จะเป็นปีที่ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมออสการ์ อาจ Landslide คือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง
จะชนะได้อย่างถล่มทลายอีกปีนึง คือสาขาภาพยนตร์และผู้กำกับอาจจะเป็นเรื่องเดียวกันก็ได้
เพราะหนังตัวเต็งอย่าง Roma ,Green Book,A Star is Born และ Bohemian Rhapsody ต่างได้ไปเข้าชิงและกวาดรางวัลมาจากหลายเวที
ทั้งในสาขาสำคัญๆ อย่าง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอดเยี่ยม นักแสดงนำ
หรือบทภาพยนตร์ มาแล้ว เป็นต้น
ในส่วนของสาขาบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่มเป็นการสู้กันของหนังตัวเต็งทั้ง 2 เรื่องคือ Green Book
VS Roma อย่างสูสี แต่ในส่วนของสาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยมนี่สิคาดเดาได้ยากสุดๆ
เพราะมันมีความดีงามไปคนละด้าน และที่เขามาชิง ไม่มีเรื่องใดโดดเด่นแบบเต็ง 1
เสียด้วย เอาเป็นว่าผู้เขียนชอบอยู่ 3 ใน 5 เรื่อง คือ The Ballad
of Buster Scruggs, BlacKkKlansman และ A Star is Born (เรื่องนี้เคยสร้างมาถึง 4 เวอร์ชั่นแล้วคือฉบับปี 1937,1954,1976
และ 2018) เรื่องใดสมควรได้รางวัลบทดัดแปลงยอดเยี่ยมนั้น
คงต้องเป็นหน้าที่หนักของคณะกรรมการออสการ์แล้วแหละ ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่า
เรื่องใดก็ได้ ศักดิ์ศรีเท่าเทียม แต่ความยอดเยี่ยมไม่ต่างกัน
นี่จึงเป็นอีกปีหนึ่งที่การตัดสินรางวัลออสการ์ในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมดูจะตัดสินยากอีกปีหนึ่ง
เพราะจะออกลูก Landslide ก็ได้
คือเรื่องเดียวกวาดแทบทุกรางวัลหลัก หรือแบ่งๆ กันไป ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่ง
ผู้กำกับอีกเรื่องหนึ่ง
แต่ขอร้องว่ารางวัลบทกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมควรไปในทิศทางเดียวกัน เป็นปีที่ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเรื่องใดจะมาวิน
เพราะโดยส่วนตัวผู้เขียนก็เพิ่งได้ดูเป็นบางเรื่องเท่านั้น ผู้เขียนชอบอยู่ 2 เรื่องและขอฟันธงว่า ปีนี้เบียดกันอยู่เพียงแค่ 2 เรื่องนี้เท่านั้น
นั่นก็คือ Roma กับ Green Book จึงขอโฟกัสอยู่แค่เพียง 2 เรื่องนี้เท่านั้น
มิใช่ว่าเรื่องอื่นจะไม่ดี หรือไม่มีสิทธิ์ได้รางวัล
แต่โดยองค์รวมและความเข้มข้นของการเดินเรื่อง และประเด็นในหนัง ผู้เขียนขอยกให้ 2 เรื่องนี้เป็นคู่ชิงที่แท้จริงในโค้งสุดท้าย สำหรับ Roma นั้น ทั้งตอนดู trailer และตัวเต็มของภาพยนตร์ให้อรรถรสในแบบที่เคยดูเรื่อง The
Pianist (2002) ,Life is Beautiful (1997) หรือ City of God
(2002) แม้เนื้อหาจะไม่ใกล้เคียงซักเท่าไหร่
แต่ได้อารมณ์หดหู่ในแบบนั้น เมื่อต้องเห็นชะตากรรมของตัวละครที่พลิกผันไปแบบนั้น และที่สำคัญคืองานด้านภาพสวยมากๆ
ส่วน Green Book ไม่ได้เร้าอารมณ์คนดูเหมือนเรื่องแรก แต่เป็นงานโชว์ไดอะล็อคที่ขยี้ปมหรือประเด็นปัญหาระหว่างชนชั้น
การเหยียดเพศ ที่มีอยู่จริงในสังคมคนอเมริกัน ล้วงลึกประเด็นของหนัง แล้วค่อยหาทางคลี่คลายประเด็นหรือทางออกของหนังในตอนท้ายกับบทสรุปที่ค่อนข้างมองโลกในแง่บวก
ทีมนักแสดงที่เล่นดี จนเราเชื่อ
อารมณ์ของหนังดูคล้ายตอนที่ผู้เขียนเคยได้รับจากการชม ภ.เรื่อง The
Intouchables (2011) แต่โดยรวมยังคงยกให้ 2 เรื่องตัวเต็งนี้เบียดเข้าวินได้ ในอัตรา 52 : 48 คือน้ำหนักเทไปให้ Roma เหนือ Green
Book นิดๆ แต่รู้สึกประเด็นในหนัง Green Book กำลังเป็นกระแสหลักในสังคมคนอเมริกันและทั่วโลกเผชิญอยู่ในเวลานี้มากกว่า
กำลังชั่งใจว่าออสการ์จะเลือกให้รางวัลหนังยอดเยี่ยมกับหนังที่เต็มไปด้วยการเร้าอารมณ์และภาพสวย
ตัดต่อเยี่ยมอย่าง Roma หรือจะเลือกให้ Green
Book ซึ่งมันสะท้อนประเด็นปัญหา การเหยียดเพศ การเสียดสีสังคม
การแบ่งแยกชนชั้น ที่เป็นกระแสในยุคนี้มากกว่า
ถ้าจะมีตัวสอดแทรกที่อาจกลายเป็นม้ามืดที่จะเข้ามาเบียดคว้าชัยไป ก็อาจเป็น Bohemian
Rhapsody หรือไม่ก็ The Favourite โดยส่วนตัวผู้เขียนยังชอบเรื่อง A Star is Born และ BlacKkKlansman อีกด้วยอยากให้ได้รางวัลติดไม้ติดมือไปบ้าง เพราะบทดีเช่นกันกล่าวโดยสรุปเชียร์ Roma กับ Green
Book ที่จะคว้ารางวัลหนังเยี่ยมไป เรื่องใดเรื่องหนึ่งเป็นผู้ชนะได้รางวัลไป
ก็ไม่ถือว่าพลิกความคาดหมาย
Best Picture : Nominations 8
choice ผู้เข้าชิงหนังยอดเยี่ยม ได้แก่
Best Direction : Nominations 5
choice ผู้เข้าชิงผู้กำกับยอดเยี่ยม ได้แก่
Spike Lee, BlackkKlansman Pavel Pawlikowski, Cold War Yorgos Lanthimos, The Favourite Alfonso Cuaron, Roma Adam McKay, Vice
Best Original Screenplay :
Nomination 5 choice ผู้เข้าชิงบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
ได้แก่
The Favourite (Deborah Davis and Tony McNamara) First Reformed (Paul Schrader) Green Book (Nick Vallelonga, Brian Currie and Peter FArrelly) Roma (Alfonso Cuaron) Vice (Adam McKay)
Best Adapted Screenplay : Nomination
5 choice ผู้เข้าชิงบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ได้แก่
The Ballad of Buster Scruggs (Joel and Ethan Coen) BlackkKlansman (Charlie Wachtel, DAvid Rabinowitz, Kevin
Wilmott and Spike Lee) Can You Ever Forgive Me? (Nicole Holofcener and Jeff Whitty) If Beale Street Could Talk (Barry Jenkins) A Star is Born (Eric Roth, Bradley Cooper, Will Fetters)
Roma หนังเวรี่ส่วนตัวของ
Alfonso Cuarón ที่มาแรงทุกเวทีประกาศรางวัล และคุณต้องดู!
Roma ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเวที Golden Globe ปีล่าสุดในสาขา Best Screenplay – Motion Picture, Best Director –
Motion Picture และ Best Motion Picture – Foreign Language โดยก่อนหน้านี้Romaได้รับรางวัลมาแล้วจากหลากหลายเวที ทั้งภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวที Venice
Film Festival 2018, Santa Barbara International Film Festival, Philadelphia
Film Critics Circle Awards, New York Film Critics Circle Awards, Hollywood Film
Awards และอีกมากมาย ทั้งยังมีการฟันธงจากสื่อหลายสำนักว่าRoma มีสิทธิ์ได้รับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ในปี
2019 อีกด้วย และถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริงRomaจะเป็นภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศเรื่องแรกที่ชนะรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในเวทีออสการ์